วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2561

Arashi no Naka de Kimi Dake wa / Nanjo Yoshino



嵐のなかで君だけは / 南條愛乃




storm, I call the storm
storm, I call the storm
強い風は どんな明日を呼ぶんだろう
tsuyoi kaze wa donna ashita wo yobun darou
สายลมที่พัดแรงจะเรียกหาวันพรุ่งนี้แบบไหนมากันนะ
storm, I call the storm
storm, I call the storm
欲しい空を どんな風が吹くんだろう
hoshii sora wo donna kaze ga fukun darou
ท้องฟ้าที่ฉันต้องการจะถูกสายลมแบบไหนพัดพากันนะ




もう諦めてしまえ
mou akiramete shimae
ฉันที่ได้ยอมแพ้ไปแล้ว
楽園の蛇のような声が
rakuen no hebi no you na koe ga
ได้ยินเสียงที่คล้ายกับ
聞こえてきたんだと 立ちどまる
kikoetekitan da to tachidomaru
เสียงของงูแห่งสวรรค์ ฉันจึงหยุดเพื่อฟัง
Ah それは答えじゃない
Ah  sore wa kotae janai
Ah แต่สิ่งนั้นกลับไม่ใช่คำตอบ
甘い誘惑 ありふれた誘惑 違うんだ求めるものは
amai yuuwaku arifureta yuuwaku chigaun da motomeru mono wa
จะสิ่งล่อใจแสนหวาน หรือสิ่งล่อใจทั่วไป ก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันปรารถนา   




storm, I call the storm
storm, I call the storm
強い風で 強い明日を呼ぶんだろう
tsuyoi kaze de tsuyoi ashita wo yobun darou
สายลมที่พัดแรงจะเรียกหาวันพรุ่งนี้อันแรงกล้ามา
storm, I call the storm
storm, I call the storm
欲しい空は 祈りよりもっと野蛮な熱さで
hoshii sora wa inori yori motto yaban na atsusa de
ท้องฟ้าที่ฉันต้องการ มาพร้อมกับความร้อนที่รุนแรงกว่าคำอธิษฐาน




この手が求めた世界は 鮮やかに
kono te ga motometa sekai wa azayaka ni
มือคู่นี้ของฉันจะเปลี่ยนโลกที่ฉันปรารถนา
モノクロームから夜明けへ変わるよ
monokuromu kara yoake e kawaru yo
จากเฉดสีเดียวให้เป็นรุ่งอรุณด้วยความสดใส
そこにいていつも 嵐のなかで君の目が
soko ni ite itsumo arashi no naka de kimi no me ga
เธออยู่ตรงนั้นตลอดมา และคอยเฝ้ามองวิธีการฉัน
私のやり方を 責めることもなくただずっと見てる
watashi no yarikata wo semeru koto mo naku tada zutto miteru
ด้วยตาคู่นั้นของเธอจากในพายุ โดยไม่ต่อว่าอะไรฉันสักคำ




どうしたら良かったのか
doushitara yokatta no ka
ฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ
誰かのせいにはしたくないから
dareka no sei ni wa shitakunai kara
ฉันไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดของใครเลย
まだ抗ってる 無駄でいいよ
mada aragatteru muda de ii yo
ฉันยังดิ้นรนต่อไป ถึงมันจะเปล่าประโยชน์ก็ตาม
Ah 無駄から生まれる新しい謎へと
Ah muda kara umareru atarashii nazo e to
Ah ลางสังหรณ์ที่เกือบจะได้เชื่อมไปถึง
やがて繋がりそうな 予感が吹き荒れた
yagate tsunagaru sou na yokan ga fukiareta
ปริศนาใหม่ที่เกิดขึ้นจากความเปล่าประโยชน์ ถูกพัดหายไป




出会いと別れと
deai to wakare to
ทั้งการพบพาน และการแยกจาก
どちらが私の未来招くのかは わからない
dochira ga watashi no mirai no maneku no ka wa wakaranai
สิ่งไหนจะเชื้อเชิญฉันไปสู่อนาคตกันนะ ฉันไม่รู้เลย
わからないままだけど
wakaranai mama dakedo
แต่ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เข้าใจ
ひとつひとつが いつか解き明かされる
hitotsu hitotsu ga itsuka tokiakasareru
มัน(คำตอบ)ก็ค่อย ๆ เผยออกมาทีละนิดในสักวันหนึ่ง




優しくありたい世界が 揺らぐのは
yasashiku aritai sekai ga yuragu no wa
บนโลกที่ฉันต้องการจะเป็นคนอ่อนโยนได้สั่นไหว
勝手な願いを飲み込むから
katte na negai wo nomikomu kara
เพราะฉันได้กลืนคำอธิษฐานที่เห็นแก่ตัวลงไป
そこにいていまの 嵐のなかで君だけは
soko ni ite ima no arashi no naka de kimi dake wa
ตอนนี้เธออยู่ตรงนั้น มีเพียงเธอเท่านั้นที่อยู่ภายในพายุ
私が受けとめる過ちの痛み ただずっと見てて
watashi ga uketomeru ayamachi no itami tada zutto mitete
และคอยเฝ้ามองฉันเจ็บปวดจากการยอมรับความผิดของตัวเอง




storm, I call the storm
storm, I call the storm
強い風は どんな明日を呼ぶんだろう
tsuyoi kaze wa donna ashita wo yobun darou
สายลมที่พัดแรงจะเรียกหาวันพรุ่งนี้แบบไหนมากันนะ
squall, I call the squall
squall, I call the squall
欲しい空を どんな風が吹くんだろう
hoshii sora wo donna kaze ga fukun darou
ท้องฟ้าที่ฉันต้องการจะถูกสายลมแบบไหนพัดพากันนะ




優しくありたいと願うほどに
yasashiku aritai to nagau hodo ni
ฉันต้องการจะเป็นคนอ่อนโยน จนทำให้
揺らいでしまうのが運命だよ、と聞こえた…?
yurai de shimau no ga unmei da yo, to kikoeta…?
โชคชะตาของฉันต้องสั่นไหว ฉันได้ยินมาแบบนั้น…?




この手よ届けと求めた世界は 鮮やかに
kono te yo todoke to motometa sekai wa azayaka ni
มือคู่นี้ของฉันจะส่งไปให้ถึงและเปลี่ยนโลกที่ฉันปรารถนา
モノクロームから夜明けへ変わるよ
monokuromu kara yoake e kawaru yo
จากเฉดสีเดียวให้เป็นรุ่งอรุณด้วยความสดใส
そこにいていつも 嵐のなかで君の目が
soko ni ite itsumo arashi no naka de kimi no me ga
เธอยังอยู่ตรงนี้ตลอดมา คอยเฝ้ามองวิธีการฉัน
私のやり方を 責めることもなくただずっと見てる
watashi no yarikata wo semeru koto mo naku tada zutto miteru
ด้วยตาคู่นั้นจากในพายุ โดยไม่ต่อว่าอะไรฉันสักคำ




storm, I call the storm
storm, I call the storm
強い風で 強い明日を呼ぶんだろう
tsuyoi kaze de tsuyoi ashita wo yobun darou
สายลมที่พัดแรงคงจะเรียกหาวันพรุ่งนี้อันแรงกล้ามา
storm, I call the storm
storm, I call the storm
欲しい空は 凍りながら燃えるだろう
hoshii sora wa koori nagara moeru darou
ท้องฟ้าที่ฉันต้องการกำลังลุกไหม้ขณะที่ถูกแช่แข็งไว้

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561

Innocent flower / Minase Inori



Innocent flower / 水瀬いのり


冷たい風震えてた
tsumetai kaze furueteta
ยังเป็นแค่เพียงดอกตูมเล็ก ๆ
まだ小さなつぼみ
mada chiisana tsubomi
ที่สั่นไหวด้วยสายลมหนาว
夢を見るだけで
yume wo miru dake de
ทำได้เพียงแค่ฝันเท่านั้น


歩き方も分からずに
arukita mo wakarazu ni
แม้แต่วิธีการก้าวเดินก็ยังไม่รู้
擦り傷を数えて
surikizu wo kazoete
ได้แต่นับจำนวนรอยแผล
ヒカリを捜し続けた
hikari wo sagashi tsuzuketa
และค้นหาแสงสว่างต่อไป


見上げた星に 手を伸ばすような
miagate hoshi ni te wo nobasu you na
แหงนหน้าขึ้นมองดวงดาวและเอื้อมมือไปหา
迷い続ける 旅人みたいにね
mayoi tsuzukeru tabibito mitai ni ne
ราวกับเป็นนักเดินทางที่กำลังหลงทางเลยนะ
凍えた胸を 温めた笑顔
kogoeta mune wo atatameta egao
ด้วยรอยยิ้มที่ให้ความอบอุ่นกับหัวใจอันหนาวเหน็บ
木漏れ日のような 優しさに出会って
komorebi no you na yasahshisa ni deatte
ราวกับเป็นแสงตะวัน ฉันก็ได้พบกับความอ่อนโยน
ここまで来たの
koko made kita no
ทำให้ฉันมาถึงตรงนี้ได้


朝露で目醒めた 白い花びら
asatsuyu de me sameta shiroi hanabira
กลีบดอกไม้สีขาวลืมตาตื่นขึ้น ด้วยหยาดน้ำค้างในยามเช้า
ありがとうの言葉の代わりにね
arigatou no kotoba no kawari ne
จะแทนที่คำพูดขอบคุณของฉัน
穢れのないいのり 君に届くように
kegare no nai inori kimi ni todoku you ni
ด้วยคำอธิษฐานอันแสนบริสุทธิ์ เพื่อส่งมันไปให้เธอ
咲かせるよ Innocent flower
sakaseru yo Innocent flower
จงเบ่งบานขึ้นเถอะ Innocent flower


急ぐ誰かにとっては
isogu dareka ni totte wa
สำหรับใครก็ตามที่กำลังรีบ
振り向かれもしない 小さな花も
furimukare mo shinai chiisana hana mo
ขออย่าได้หันหลังกลับมามอง แม้แต่ดอกไม้ดอกเล็ก ๆ ก็ตาม


いつか立ち止まる人が
itsuka tachidomaru hito ga
ฉันเชื่อในการมาถึงของ
来ることを信じて
kuru koto wo shinjite
ผู้คนที่เคยหยุดก้าวเดินไปแล้ว
微笑みを絶やさずにいる
hohoemi wo tayasazu ni iru
ฉันจึงยังคงรักษารอยยิ้มเอาไว้


もしも私に 君が抱えてる
moshimo watashi ni kimi ga kakaeteru
ถ้าหากว่า ฉันย้อมเปลี่ยน 
悲しみの色 染め変えられたなら
kanashimi no iro some kaerareta nara
สีสันแห่งความเศร้าที่เธอกำลังแบกรับไว้เป็นสีอื่น
どんなに素敵
donna ni suteki
มันจะวิเศษขนาดไหนกันนะ


風に歌を乗せて 白い花びら
kaze ni uta wo nosete shiroi hanabira
ร้อยเรียงบทเพลงลงในสายลม แล้วกลีบดอกไม้สีขาว
ありがとうの言葉の代わりにね
arigatou no kotoba no kawari ni ne
จะแทนที่คำพูดขอบคุณของฉัน
心からのいのり 君が微笑むなら
kokoro kara inori kimi ga hohoemu nara
ด้วยคำอธิษฐานจากหัวใจ หากเธอกำลังยิ้มอยู่ล่ะก็
咲かせるよ Innocent flower
sakaseru yo Innocent flower
จงเบ่งบานขึ้นเถอะ Innocent flower


振り返れば どんな時も
furikaereba donna toki mo
หากหันกลับไปมองข้างหลัง ไม่ว่าจะเวลาไหน
ひとりぼっちじゃ なかったと知るよ
hitori bocchi janakatta to shiru yo
ฉันก็รู้ดีว่าฉันไม่ได้อยู่ตามลำพัง
十人十色 君だけの色
juu nin to iro kimi dake no iro
ต่างคนต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง เธอก็มีสีสันในแบบของเธอเอง
ぎゅっと もっと ずっと 花束のように 抱いて
gyutto motto zutto hanataba no you ni daite
กอดให้แน่น ขึ้นอีก ตลอดไป ราวกับเป็นช่อดอกไม้ที่มัดอยู่รวมกัน


朝露で目醒めた 白い花びら
asatsuyu de me sameta shiroi hanabira
กลีบดอกไม้สีขาวลืมตาตื่นขึ้น ด้วยหยาดน้ำค้างในยามเช้า
ありがとうの言葉の代わりにね
arigatou no kotoba no kawari ne
จะแทนที่คำพูดขอบคุณของฉัน
穢れのないいのり 君に届くように
kegare no nai inori kimi ni todoku you ni
ด้วยคำอธิษฐานอันแสนบริสุทธิ์ เพื่อส่งมันให้เธอ
咲かせるよ 何度もここで
sakaseru yo nandomo koko de
จงเบ่งบานขึ้นเถอะ นับครั้งไม่ถ้วนอยู่ตรงนี้


君のため咲いたよ 白い花びら
kimi no tame saita yo shiroi hanabira
กลีบดอกไม้สีขาวที่เบ่งบานออกเพื่อเธอ
ありがとうの言葉の代わりにね
arigatou no kotoba no kawari ni ne
จะแทนที่คำพูดขอบคุณของฉัน
永遠(とわ)に続くいのり 幸せを願って
towa ni tsuzuku inori shiawase wo negatte
ด้วยคำอธิษฐานที่อ้อนขอความสุขไปจนนิรันดร์
咲かせるよ Innocent flower
sakaseru yo Innocent flower
จงเบ่งบานขึ้นเถอะ Innocent flower
真っ白なInnocent flower
masshiro na Innocent
ช่างขาวผ่องบริสุทธิ์ Innocent flower

วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2561

Bokutachi wa Hitotsu no Hikari / μ’s



/ μ's



Ah! ほのかな予感から始まり
Ah! honoka na yokan kara hajimari
Ah! มันเริ่มต้นขึ้นจากลางสังหรณ์ที่เบาบาง
Ah! 希望星空駈けて
Ah! nozomi ga hoshizora kakete
Ah! ความปรารถนาลอยอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
を咲かせるにっこり笑顔は
hana wo sakaseru nikkori egao wa
รอยยิ้มร่าเริงของพวกเราที่ทำให้ดอกไม้เบ่งบาน
ずっと同じさ 友情の笑顔
zutto onaji sa yuujou no egao
พวกเรามีเหมือนกันมาโดยตลอด เป็นรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ


忘れない いつまでも忘れない
wasurenai itsumademo wasurenai
เราจะไม่ลืมมันหรอก จะไม่ลืมมันตลอดไปเลย
こんなにも心がひとつになる
konna ni mo kokoro ga hitotsu ni naru
ก็หัวใจของเราเป็นหนึ่งเดียวกันขนาดนี้
世界を見つけた喜び(ともに)歌おう
sekai wo mitsuketa yorokobi (tomo ni) utaou
พวกเราได้พบกับโลกใบนี้ มาขับขานบทเพลง (ด้วยกัน) อย่างสนุกสนาน
最後まで(僕たちはひとつ)
saigo made (bokutachi wa hitotsu)
ไปจนถึงที่สุดเถอะนะ (พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกัน)


小鳥の翼がついに大きくなって
kotori no tsubasa ga tsui ni ookiku natte
ในที่สุด ปีกของนกน้อยก็เติบโตขึ้น
旅立ちの日だよ
tabidachi no hi dayo
ถึงวันที่ต้องออกเดินทางแล้วล่ะ
遠くへと広がるの色暖かく
tooku e to hirogaru umi no iro atatakaku
สีสันของทะเลที่แผ่ออกไปไกลแสนไกลช่างอบอุ่น
夢の中で描いたのようなんだ
yume no naka de egaita e no you nanda
ราวกับเป็นภาพที่วาดขึ้นในความฝันเลยนะ
切なくて時をまきもどしてみるかい?
setsunakute toki wo maki modoshite miru kai?
มันช่างน่าเจ็บปวด อยากจะลองย้อนเวลากลับไปมั้ยล่ะ?
No no no いまが最高!
No no no ima ga saikou!
No no no ตอนนี้แหละดีที่สุด!


みんなと出会えたこと嬉しくて
minna to deaeta koto ureshikute
การที่ได้พบกับทุกคน ฉันดีใจมากเลยล่ะ
離れたくないよ本当だよ
hanaretakunai yo hontou dayo
จนฉันไม่อยากแยกจากไปไหนเลย ฉันพูดจริง ๆ นะ
涙はいらない このまま踊ろう
namida wa iranai kono mama odorou
พวกเราไม่ต้องการน้ำตา มาเต้นด้วยกันไปทั้งแบบนี้
手を振ってもっと振って
te wo futte motto futte
โบกมือไปมา และโบกมือให้มากกว่านี้


光を追いかけてきた僕たちだから
hikari wo oikakete kita bokutachi dakara
เพราะว่าพวกเราได้ไล่ตามแสงสว่างมาแล้ว
さよならは言わない
sayonara wa iwanai
เราจึงไม่เอ่ยคำบอกลาออกมา
また会おう 呼んでくれるかい?
mata aou yonde kureru kai?
แล้วมาพบกันอีกนะ เธอได้เรียกหามันรึเปล่า?
僕たちのこと
bokutachi no koto
เรียกหาเรื่องราวของพวกเรา
素敵だった未来に繋がった夢
suteki datta mirai ni tsunagatta yume
อนาคตอันแสนวิเศษได้เชื่อมเข้ากับความฝัน
夢の未来 君と僕のLIVE&LIFE
yume no mirai kimi to boku no LIVE & LIFE
เป็นอนาคตแห่งความฝัน และ LIVE & LIFE ของเธอกับฉัน


小鳥の翼がついに大きくなって
kotori no tsubasa ga tsui ni ookiku natte
ในที่สุด ปีกของนกน้อยก็เติบโตขึ้น
旅立ちの日だよ
tabidachi no hi dayo
ถึงวันที่ต้องออกเดินทางแล้วล่ะ
遠くへと広がる海の色暖かく
tooku e to hirogaru umi no iro atatakaku
สีสันของทะเลที่แผ่ออกไปไกลแสนไกลช่างอบอุ่น
夢の中で描いた絵のようなんだ
yume no naka de egaita e no you nanda
ราวกับเป็นภาพที่วาดขึ้นในความฝันเลยนะ
切なくて時をまきもどしてみるかい?
setsunakute toki wo maki modoshite miru kai?
มันช่างน่าเจ็บปวด อยากจะลองย้อนเวลากลับไปมั้ยล่ะ?
No no no いまが最高!
No no no ima ga saikou!
No no no ตอนนี้แหละดีที่สุด!
だってだって、いまが最高!
datte datte, ima ga saikou!
ก็เพราะว่า ก็เพราะว่า ตอนนี้แหละดีที่สุด!


Ah! ほのかな予感から始まり
Ah! honoka na yokan kara hajimari
Ah! มันเริ่มต้นขึ้นจากลางสังหรณ์ที่เบาบาง
Ah! 光を追いかけてきたんだよ…
Ah! hikari wo oikakete kita nda yo…
Ah! ก็พวกเราได้ไล่ตามแสงสว่างมาแล้ว…

_________________________________

Voice

高坂穂乃果 (CV : 新田恵海)
Kousaka Honoka (CV : Nitta Emi)
絢瀬絵里 (CV : 南條愛乃)
Ayase Eli (CV : Nanjo Yoshino)
南ことり (CV : 内田 彩)
Minami Kotori (CV : Uchida Aya)
園田海未 (CV : 三森すずこ)
Sonoda Umi (CV : Mimori Suzuko)
星空 凛 (CV : 飯田里穂)
Hoshizora Rin (CV : Iida Riho)
西木野真姫 (CV :Pile)
Nishikino Maki (CV : Pile)
東條 希 (CV : 楠田亜衣奈)
Tojo Nozomi (CV : Kusuda Aina)
小泉花陽 (CV : 久保ユリカ)
Koizumi Hanayo (CV : Kubo Yurika)
矢澤にこ (CV : 徳井青空)
Yazawa Nico (CV : Tokui Sora)

Eli & Umi
Kotori & Maki
Eli & Kotori & Nozomi
Rin & Hanayo & Nico
Honoka & Umi & Maki
_________________________________

สวัสดีคุณผู้อ่านครับ ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของพวกเธอ μ's ทั้ง 9 คน ผมเลยเลือกที่จะแปลเพลงที่มีความหมายสื่อถึง μ's มากที่สุด

มาที่ความหมายของเพลงนี้บ้าง Bokutachi wa Hitotsu no Hikari หรือ ‘พวกเราคือแสงสว่างที่เป็นหนึ่งเดียวกัน’ และเพลงนี้ก็ยังมีชื่อของตัวละครทั้ง 9 แฝงอยู่ในเนื้อเพลงอีกด้วย (ไฮไลท์สีดำ)

ほのか - โฮโนกะ (เบาบาง)
希望 - โนโซมิ (ความปรารถนา)
星空 - โฮชิโซระ (ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว) จากนามสกุลของริน
- ฮานะ (ดอกไม้) จากชื่อของฮานาโยะ
にっこ - นิคโค จากคำว่า นิคโคริ (รอยยิ้ม) สื่อถึงชื่อของนิโกะ
小鳥 - โคโทริ (นกน้อย)
- อูมิ (ทะเล)
- เอ (ภาพวาด) จากชื่อของเอริ
まき - มากิ จาก มากิโมโดชิเต (ย้อนกลับไป)

และตรงท่อน yume no mirai kimi to boku no LIVE & LIFE คำว่า kimi to boku no LIVE & LIFE ยังสื่อถึงเพลง Boku no LIVE Kimi to no LIFE ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกอีกด้วย

สำหรับเพลงนี้ตอนผมได้ฟังครั้งแรก ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก พอได้ไปอ่านความหมายตอนไปดูภาคมูฟวี่ในโรง มันก็รู้สึกเหมือนน้ำตามันจะไหลออกมา หลังจากนั้น พอกลับมาฟังอีกทีมันก็ร้องไห้ออกมาหลายครั้งเลย
ซึ่งตอนที่ไปดูไลฟ์วิวของไฟนอลไลฟ์ น้ำตาผมมันก็เริ่มไหลออกมาตอนช่วง MC ก่อนเพลง MOMENT RING จนมาถึงเพลงนี้ก็ผมก็ยังไม่หยุดร้อง ซึ่งน้ำตาที่ออกมามันกว่าการฟังเพลงก่อนหน้านั้นหลายเท่าเลย  ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากให้ช่วงเวลานี้จบสิ้นลง แม้จะรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้
ซึึ่งถ้าลองถามตัวเองดูว่า ‘อยากจะลองย้อนเวลากลับไปมั้ยล่ะ?’ ผมก็ยังจะตอบตัวเองแบบเดิมอยู่ครับว่า ‘อยาก’ อยากกลับไปวันนั้นอีกครั้งหนึ่ง แม้จะรู้ดีว่าต้องร้องไห้ก็ตาม เพราะตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมประทับใจที่สุดเลย แต่ก็อย่างเพลงว่าไว้นั่นแหละครับ ‘ตอนนี้แหละดีที่สุด!’
สุดท้าย ผมก็ขอเก็บช่วงเวลาเหล่านี้ไว้เป็นความทรงจำที่ดีที่สุด และเฝ้ารอว่าสักวันพวกเธอจะกลับขึ้นมาแสดงบนเวทีอีกครั้ง

อาจจะบ่นยาวไปบ้าง อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ
ถ้ามีข้อมูลหรือคำแปลตรงไหนผิดพลาดหรือไม่ถูกใจ ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขอบคุณที่แวะเวียนเข้าอ่านกันครับ :)