วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Kimi to 100 Kaime no Koi / miwa

***ความหมายของเพลงนี้มีการสปอยล์เนื้อเรื่องของหนัง***





君と100回目の恋 / miwa



聴こえてますか私の声は
kikoete masu ka atashi no koe wa
เธอจะได้ยินรึเปล่า เสียงของฉันน่ะ
届いてたかな私の想いは
todoiteta kana atashi no omoi wa
จะส่งไปถึงเธอรึเปล่านะ ความรู้สึกของฉันน่ะ
君がどれほど大切なのか
kimi ga dore hodo taisetsu na no ka
ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว
今になって気づいたの
ima ni natte kizuita no
ว่าเธอสำคัญกับฉันขนาดไหน



君と100回出会ったとしても
kimi to hyakkai deatta to shite mo
แม้ว่าฉันจะพบกับเธอมาเป็นร้อยครั้ง
たとえ生まれ変わっても 100回恋するよ
tatoe umarekawatte mo hyakkai koi suru yo
หรือแม้ว่าฉันจะได้เกิดใหม่ ฉันก็จะขอรักเธอร้อยครั้ง



ありがとう 好きになってくれて
arigatou suki ni natte kurete
ขอบคุณนะ ที่รักฉัน
ありがとう 抱きしめてくれて
arigatou dakishimete kurete
ขอบคุณนะ ที่คอยโอบกอดฉัน
ありがとう いつでも守ってくれて
arigatou itsudemo mamotte kurete
ขอบคุณนะ ที่คอยปกป้องฉันอยู่เสมอ
ありがとう ありがとう 伝えきれないほど
arigatou arigatou tsutae kirenai hodo
ขอบคุณนะ ขอบคุณ แต่มันก็เกินกว่าจะพูดออกไปได้หมด



1人で食べるカレーの味に
hitori de taberu karee no aji ni
พอผ่านไปพักนึง เธอคงจะชินกับ
そのうち慣れていくんだね
sono uchi narete iku n da ne
รสชาติของแกงกะหรี่เวลาที่ทานคนเดียว
それは悲しいことなんかじゃない
sore wa kanashii koto nanka ja nai
แต่ว่านั่นน่ะไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าหรอกนะ
2人の時間は消えないから
futari no jikan wa kienai kara
เพราะว่าช่วงเวลาของเราสองคนไม่เคยหายไป



幸せな時間 君がくれたから
shiawase na jikan kimi ga kureta kara
เพราะเธอคอยมอบช่วงเวลาแห่งความสุขมาให้
私にできること これが最後の歌
atashi ni dekiru koto kore ga saigo no uta
สิ่งที่ฉันทำได้ ก็คือบทเพลงสุดท้ายเพลงนี้



ありがとう そばにいてくれて
arigatou soba ni itekurete
ขอบคุณนะ ที่อยู่เคียงข้างฉัน
ありがとう 微笑んでくれて
arigatou hohoen de kurete
ขอบคุณนะ ที่คอยยิ้มให้ฉัน
ありがとう 優しく叱ってくれて
arigatou yasashiku shikatte kurete
ขอบคุณนะ ที่ดุฉันอย่างอ่อนโยน
ありがとう ありがとう 伝えきれないほど
arigatou arigatou tsutae kirenai hodo
ขอบคุณนะ ขอบคุณ แต่มันก็เกินกว่าจะพูดออกไปได้หมด



どうか幸せになってね
douka shiawase ni natte ne
ได้โปรด เธอจะต้องมีความสุขนะ
それが私の願い 約束してね
sore ga atashi no negai yakusoku shite ne
นี่คือคำขอของฉัน สัญญากับฉันสิ
さぁ歩き出して 君の日々を生きて
saa aruki dashite kimi no hibi wo ikite
เอาล่ะ จงก้าวเดินและใช้ชีวิตในแต่ละวันของเธอต่อไป
私の大好きな笑顔見せて
atashi no daisuki na egao misete
ช่วยแสดงรอยยิ้มที่ฉันรักที่สุดให้เห็นทีนะ



さよなら 大きな君の手
sayonara ooki na kimi no te
ลาก่อนนะ มือที่กว้างใหญ่ของเธอ
さよなら 2人見た夕日
sayonara futari mita yuuhi
ลาก่อนนะ พระอาทิตย์ตกดินที่เราดูด้วยกันสองคน
さよなら 名前呼ぶ愛しい声
sayonara namae yobu itoshii koe
ลาก่อนนะ เสียงอันเป็นที่รักที่คอยเรียกชื่อของฉัน
さよなら さよなら 巡り会えてよかった
sayonara sayonara meguri aete yokatta
ลาก่อนนะ ลาก่อน ดีใจจริง ๆ ที่ได้มาพบกับเธอ
100回繰り返しても叫んでもそれでも足りない
hyakkai kurikae shite mo saken demo soredemo tarinai
แม้ว่าจะวนซ้ำไปมาร้อยครั้ง หรือจะตะโกนอออกมา มันก็ยังไม่พอ




สวัสดีคุณผู้อ่านครับ วันนี้ผมได้ไปดู kimi to 100 kaime no koi มาก็เลยกลับมาแปลเพลงนี้แล้วก็แก้คำบางส่วนของเพลง ai okuri (กดที่ชื่อเพลงเพื่อไปอ่านความหมายของเพลง) อนแรกคิดว่าจะแก้เยอะ พอมาลองอ่าน ๆ ใหม่แล้วก็เลยตัดสินใจแก้แค่นิดเดียว เพราะโดยรวม ok อยู่แล้ว จากนี้ไปเป็นการรีวิวคร่าว ๆ นะครับ ข้างล่างนี้มีการสปอยล์ด้วย


สำหรับผมหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีมากอีกเรื่องนึงเลยครับ หนังแสดงออกมาให้เห็นเลยว่าริคุ (ซาเอกุจิ เคนทาโร่) รักอาโออิ (มิวะ) มาก ถึงขนาดย้อนเวลากลับไปเพื่อไม่ให้อาโอิต้องตาย ซึ่งเพลงประกอบ ของเรื่องนี้ (ai okuri และ kimi to 100 kaime no koi) ได้ถ่ายทอดเนื้อหาของหนังแทบทั้งหมดออกมา และถ้าได้อ่านความหมายของเพลงนี้แแล้วก็คงเข้าใจว่าหนังเรื่องนี้จบแบบไหน


จากนี้ไปสปอยล์จริง ๆ


ซึ่งคนที่แปลเพลง ai okuri มาก่อนอย่างผมก็พยายามที่จะไม่นึกถึงความหมายของมันระหว่างดูแต่พอดู ๆ ไปความหมายแต่ละส่วนมันก็ผุดขึ้นมาในหัวเอง ก็เลยพอที่จะเดาตอนจบออกแต่ก็ไม่อยากให้เป็นแบบที่เดาไว้


จนกระทั่งเพลงปิดของหนัง kimi to 100 kaime no koi ที่เป็นเพลงที่อาโออิร้องไว้ให้กับริคุ เพื่อให้ริคุได้ฟังเมื่อเธอจากไป พอเพลงขึ้นและได้อ่านความหมายจู่ ๆ น้ำตาผมมันก็ไหลออกมา (T^T) โดยเนื้อหาก็เหมือนเป็นคำขอบคุณ คำบอกลา และคำขอที่ให้ริคุใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขแม้ว่าจะไม่มีเธอต่อไปแล้ว ถือเป็นฉากจบที่ดีในแบบที่ควรจะเป็น (ไม่ได้จบสวยเกินไป)


ข้อคิดที่ผมได้จากเรื่องนี้ก็คือ ‘ความสุขที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการกลับไปแก้ไขอดีต แต่เกิดจากการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด’ ข้อคิดนี้ได้จากฉากในตอนจบริคุได้ขอให้เพื่อน ๆ ของเขาช่วยทำให้ความฝันของอาโออิเป็นจริง เพื่อให้ชีวิตสุดท้ายของเธอได้จากไปอย่างมีความสุข เพราะการที่เขาเอาแต่ย้อนเวลากลับไปและต้องเห็นอาโออิตาย มันไม่ทำให้อาโออิมีความสุขเลยที่ต้องเห็นคนที่รักเศร้าเสียใจ

ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรือไม่ถูกใจต้องขออภัยด้วยครับ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกันครับ :)

วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Tabi no Tochuu / Minase Inori



旅の途中 / 水瀬いのり



ここは歩き始めた旅の途中 まだまだ先は長いけど
koko wa aruki hajimeta tabi no tochuu mada mada saki wa nagai kedo
ระหว่างการเดินทางที่ฉันเริ่มต้นก้าวเดินจากตรงนี้
ยังหรอก ยังหรอก หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล
そこに辿り着いたなら 最後に笑っていれるかな
soko ni tadoritsuita nara saigo ni waratte ireru ka na
ท้ายที่สุดถ้าไปถึงที่นั่นได้ ฉันจะยิ้มออกมาได้รึเปล่านะ


幼い私が夢に見てた 理想とは少しだけ 違う自分になったよ
osanai watashi ga yume ni miteta risou to wa sukoshi dake
chigau jibun ni natta yo
ถึงตัวฉันที่เป็นอยู่มันออกจะต่างไปจากตัวเองในอุดมคติ
ที่เคยฝันไว้ในตอนเด็กอยู่นิดหน่อย
みんなそれぞれの道を歩く 胸を張っていつでも また会えるように
minna sorezore no michi wo aruku mune wo hatte itsumo mata aeru you ni
ก็ทุกคนน่ะต่างก็ยืดอกภูมิใจที่จะก้าวไปบนเส้นทางของตัวเอง
เพื่อที่จะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง


何度も不安になるし たまに迷うけど
nandomo fuan ni narushi tama ni mayou kedo
มีหลายครั้งที่ฉันต้องกังวล และเป็นบางครั้งที่ฉันต้องรู้สึกสับสน
それぞれの道の 正しさなんて誰も知らない
sorezore no michi no tadachisa nante dare mo shiranai
ก็ความถูกต้องในเส้นทางของแต่ละคนน่ะ ไม่มีใครรู้หรอก


ここは歩き始めた旅の途中 自分で選んだ道だよ
koko wa aruki hajimeta tabi no tochuu jibun de eranda michi da yo
ระหว่างการเดินทางที่ฉันเริ่มต้นก้าวเดินจากตรงนี้
บนเส้นทางที่ฉันเลือกด้วยตัวฉันเอง
そこに辿り着くまでに 何度転ぶんだろう
soko ni tadori tsuku made ni nando korobun darou
กว่าจะไปถึงที่นั่นได้ ฉันต้องล้มลงไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ずっと歩き続けた旅の途中 まだまだ先は長いけど
zutto aruki tsuzuketa tabi no tochuu mada mada saki wa nagai kedo
ระหว่างการเดินทางที่ฉันยังคงก้าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ
ยังหรอก ยังหรอก หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล
そこに辿り着いたなら 最後に笑っていれるかな
soko ni tadoritsuita nara saigo ni waratte ireru ka na
ท้ายที่สุดถ้าไปถึงที่นั่นได้ ฉันจะยิ้มออกมาได้รึเปล่านะ


一つずつ選んできた道は 遠回りしてみたり 立ち止まりもしたけど
hitotsu zutsu erande kita michi wa toomawari shite mitari
tachidomari mo shita kedo
บนเส้นทางที่ฉันเลือกแต่ละเส้น บางเส้นทางก็ต้องเดินอ้อมไป
บางเส้นทางฉันก็ต้องหยุดเดินต่อ
歩き出した日に胸に秘めた その気持ちは今でも 変わらないように
arukidashita hi ni mune ni himeta sono kimochi wa ima demo kawaranai you ni
แต่ถึงอย่างนั้น ความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ในใจตั้งแต่วันที่เริ่มก้าวไป
จนถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง


最初に踏み出す一歩が 怖く思えても
saisho ni fumidasu ippo ga kowaku omoete mo
ฉันคิดว่าการเริ่มต้นก้าวแรกมันน่ากลัว
その先がどんな景色かなんて 誰も知らない
sonosaki ga donna keshiki ka nante dare mo shiranai
ก็จากนี้ไปจะเจอกับทิวทัศน์แบบไหน ไม่มีใครรู้หรอก


ここは歩き始めた夢の途中 どんなに先が長くても
koko wa aruki hajimeta yume no tochuu donna ni saki ga nagakute mo
ท่ามกลางความฝันที่ฉันเริ่มต้นก้าวเดินจากตรงนี้
ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะยาวไกลอีกแค่ไหน
一度歩き出したなら もう戻れないから
ichido arukidashita nara mou modorenai kara
ถ้าได้ก้าวออกมาก้าวนึงแล้ว ก็หันหลังกลับไปไม่ได้แล้วล่ะ
やっと叶い始めた夢の途中 ゴールはまだ見えないけど
yatto kanai hajimeta yume no tochuu gooru wa mada mienai kedo
ท่ามกลางความฝันที่ในที่สุดก็เริ่มจะเป็นจริง
แม้ว่าจะยังคงมองไม่เห็นปลายทาง
そこに辿り着いたなら 前より輝いてるかな
soko ni tadoritsuita nara mae yori kagayaiteru kana
ถ้าไปถึงที่นั่นได้ ฉันจะเปล่งประกายขึ้นรึเปล่านะ


笑われたりしたっていいさ 信じられるなら
warawaretari shitatte ii sa shinjirareru nara
ถ้าเชื่อมั่นแล้วล่ะก็ จะยิ้มออกมาก็ได้นะ
いつも光目指し進むよ この手伸ばして
itsumo hikari mezashi susumu yo kono te nobashite
ฉันจะมุ่งไปยังปลายทางที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง
แล้วคว้ามันมาด้วยมือข้างนี้


君が歩き続ける旅の途中 どんなに先が暗くても
kimi ga aruki tsuzukeru tabi no tochuu donna ni saki ga kurakute mo
ระหว่างการเดินทางที่เธอกำลังก้าวเดินไป
ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะมืดมิดเพียงใด
そこに続く道だけは ちゃんと見つけられる
soko ni tsuzuku michi dake wa chanto mitsukerareru
เส้นทางที่พาไปสู่ที่นั่น ฉันจะหามันให้เจอให้ได้


ここは歩き始めた旅の途中 自分が信じた道だよ
koko wa aruki hajimeta tabi no tochuu jibun ga shinjita michi da yo
ระหว่างการเดินทางที่ฉันเริ่มต้นก้าวเดินจากตรงนี้
บนเส้นทางที่ฉันเชื่อมั่น
そこに辿り着くまでに 何度ぶつかっても
soko ni tadori tsuku made ni nando butsukatte mo
กว่าจะไปถึงที่นั่นได้ ฉันต้องฟันฝ่าอะไรมามากมาย
ずっと歩き続けた旅の途中 歩き出せるよ何度でも
zutto aruki tsuzuketa tabi no tochuu aruki daseru yo nandodemo
ระหว่างการเดินทางที่ฉันยังคงก้าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ
ไม่ว่าจะอีกกี่ก้าว ฉันก็จะขอก้าวต่อไป
そこに辿り着いたなら 最後に笑っていれるから
soko ni tadoritsuita nara saigo ni waratte ireru kara
เพราะท้ายที่สุดถ้าไปถึงที่นั่นได้ ฉันต้องยิ้มออกมาได้แน่


วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Niji no Oto / Aoi Eir



/

陽だまりの中 心のキャンバスに
hidamari no naka kokoro no kyanbasu ni
ภายใต้แสงแดดอันอบอุ่น  เธอได้วาดเศษเสี้ยวแห่งความหวัง
君が描く希望のかけら
kimi ga egaku kibou no kakera
บนผืนผ้าใบในใจของฉัน
手にしたパレットは時間を積み重ねて
te ni shita paretto wa jikan wo tsumi kasanete
จานสีในมือของเธอได้รวบรวมช่วงเวลาต่าง ๆ เอาไว้
繋がる色が咲いた思い出
tsunagaru iro ga saita omoide
เป็นดั่งสีสันที่เชื่อมถึงกัน ที่ผลิบานเป็นความทรงจำ


目と目が合えばこぼれる微笑み
me to mo ga aeba koboreru hohoemu
พอตาของเราเริ่มจ้องมองกัน รอยยิ้มก็พลันเอ่อล้นออกมา
緩やかに時は流れ幸せを彩ってゆく
yuruyaka ni toki wa nagare shiawase wo irodotte yuku
เวลาได้ค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ และความสุขก็ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสัน


君と手を繋いで歩む世界ならきっと
kimi to te wo tsunai de ayumu sekai nara kitto
ถ้าได้เดินจับมือเธอไปบนโลกใบนี้แล้วล่ะก็
どんな明日も明るくて
donna asu mo akarukute
ไม่ว่าจะพบกับวันพรุ่งนี้แบบไหน มันต้องเป็นวันที่สดใสแน่นอน
新しい季節を重ねてく この先も二人で
atarashii kisetsu wo kasaneteku konosaki mo futari de
จากนี้ไปเราจะข้ามผ่านฤดูกาลใหม่ ๆ ไปด้วยกัน
色とりどりに芽吹き鮮やかな景色は
irotoridori mebuki azayaka na keshiki wa
สีสันทั้งหลายได้แตกยอดออก เป็นทิวทัศน์
虹色に輝く
niji iro ni kagayuku
สีรุ้งที่เปล่งประกาย


聞きなれた声は心にそっと触れて
kikinarete koe wa kokoro ni sutto furete
เสียงที่คุ้นเคยที่ฉันได้ยิน ค่อย ๆ สัมผัสลงในใจของฉัน
響けばまるで優しい旋律
hibikeba marude yasashii senritsu
แล้วก้องกังวานราวกับท่วงทำนองอันแสนอ่อนโยน


小さな風が草木を揺らして
chiisa na kaze ga kusaki wo yurashite
สายลมเล็ก ๆ ที่ทำให้ต้นไม้เล็ก ๆ พลิ้วไหว
囁き合ったならば楽しげに音が跳ねる
sasayaki atta naraba tanoshige ni oto ga haneru
ถ้าหากมันเป็นเสียงกระซิบแล้วล่ะก็
มันคงเป็นเสียงที่กระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสนาน


おだやかな未来へ同じペースでいつまでも
odayaka na mirai e onaji peesu de itsumademo
มุ่งหน้าไปยังอนาคตอันเงียบสงบ ด้วยก้าวเดิม ๆ
変わらずずっと歩いて行こう
kawarazu zutto aruite ikou
ที่ไม่เปลี่ยนไปด้วยกันเถอะ
その声に笑顔に照らされていつまでも寄り添って
sono koe ni egao ni terasarete itsumademo yorisotte
มีทั้งเสียงนี้และรอยยิ้มนี้คอยส่องสว่างอยู่เคียงข้างฉันตลอดมา
聞こえてきた音は色彩のメロディー
kikoetekita oto wa shikisai no merodii
เสียงที่ได้ยินนี้คือท่วงทำนองแห่งสีสัน
どこまでも響いて…
dokomade mo hibiite…
ไม่ว่าจะที่ไหนมันก็จะก้องกังวาน...


君と出会えて君と触れ合って
kimi to deaete kimi to fureatte
จะเป็นตอนที่พบกับเธอ หรือตอนที่ได้สัมผัสใกล้ชิดเธอ
同じタイミングで笑い合って
onaji taimingu de waraiatte
ก็เป็นเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่พวกเราได้หัวเราะไปด้วยกัน
似てきた仕草やうつった口癖も
nitekita shigusa ya utsutta kuchiguse mo
ทั้งท่าทางที่คล้ายคลึงกันที่แสดงออกมาและ
วิธีการพูดที่สะท้อนออกมาให้เห็นของเราสองคน
一緒に生きる誓いになるから
issho ni ikiru chikai ni naru kara
จะกลายเป็นคำมั่นสัญญาว่าเราจะได้อยู่กัน


君と手を繋いで歩む世界ならきっと
kimi to te wo tsunai de ayumu sekai nara kitto
ถ้าได้เดินจับมือเธอไปบนโลกใบนี้แล้วล่ะก็
どんな明日も明るくて
donna asu mo akarukute
ไม่ว่าจะพบกับวันพรุ่งนี้แบบไหน มันต้องเป็นวันที่สดใสแน่นอน
新しい季節を重ねてく この先も二人で
atarashii kisetsu wo kasaneteku konosaki mo futari de
จากนี้ไปก็มาข้ามผ่านฤดูกาลใหม่ ๆ ไปด้วยกันนะ
色とりどりに芽吹き鮮やかな景色は
irotoridori mebuki azayaka na keshiki wa
สีสันทั้งหลายได้แตกยอดออก เป็นทิวทัศน์
虹色に輝く
niji iro ni kagayuku
สีรุ้งที่เปล่งประกาย


君がくれたものは温かく優しい 変わらない
kimi ga kureta mono wa atatakaku yasashii kawaranai
สิ่งที่เธอมอบให้ฉันมา มันช่างอบอุ่นและอ่อนโยนไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ありがとう…
arigatou...
ขอบคุณมากนะ…