วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

Yuke / LiSA



往け / LiSA




絡まる 絡まる想いはちぐはぐ 髪ほどきながら

karamaru karamaru omoi wa chiguhagu kami hodoki nagara

พันกันยุ่งเหยิง ความรู้สึกที่พันกันยุ่งเหยิงมันขัดแย้งกันไปหมดขณะที่ฉันปล่อยผมลงมา

「らしくない」

‘rashikunai’

‘ไม่สมกับเป็นฉันเลย’

誰かが作り上げた私の自画像なんかで微笑みはしない

dareka ga tsukuriageta watashi no jigazou nanka de hohoemai wa shinai

ฉันจะไม่ยิ้มให้กับภาพวาดของตัวฉันที่ใครบางคนสร้างขึ้นมา




幾度となく“正しさ”は その形を変えるけど

ikudo to naku “tadashisa” wa sono katachi wo kaeru kedo

รูปร่างของ “ความถูกต้อง” เปลี่ยนแปลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ว่า

この胸のときめきだけ信じているわ

kono mune no tokimeki dake shinjiteiru wa

มีเพียงความตื่นเต้นในใจเท่านั้น ที่ฉันเชื่อมั่น




「いけ、わたしよ 行け!」って

‘ike, watashi yo ike!’ tte

‘ไปเลย, ตัวฉัน ไปเลยสิ!’

もう、誰も追いつけない場所まで 加速していけ

mou, dare mo oitsukenai basho made kasokushiteike

เร่งความเร็ว และไปให้ถึงสถานที่ที่ไม่มีใครตามทันได้อีก

運命なんて気にしてる暇ないんだって

unmei nante ki ni shiteru hima nain datte

ไม่มีเวลามาคิดมากเรื่องโชคชะตาแล้วนะ




「いま、わたしの今!」って

‘ima, watashi no ima!’ tte

‘ตอนนี้แหละ, ช่วงเวลาตอนนี้ของตัวฉัน’

そう、あの日の涙からの未来 辿り着いたわ

sou, ano hi no namida kara no mirai tadoritsuita wa

ใช่แล้ว, ฉันได้มาถึงยังอนาคตที่มาจากน้ำตาในวันนั้น

アスヘ 世界は万華鏡

asu e sekai wa mangekyou

มุ่งสู่วันพรุ่งนี้ โลกใบนี้คือภาพจากกล้องสลับลาย




やるせない やるせない孤独のシグナルさえ踊り明かそう

yarusenai yarusenai kodoku no shigunaru sae odoriakasou

ขมขื่นหัวใจ มาเต้นไปจนเช้าตามสัญญาณของความโดดเดี่ยวอัมขมขื่นหัวใจกันเถอะ

「悪くない」

‘warukunai’

‘มันก็ไม่เลวหรอกนะ’

何にもないあの夜も 何かに怯えたあの頃も全て私

nanimonai ano yoru mo nanika ni obieta anogoro mo subete watashi

จะคืนนั้นที่ไม่มีอะไรเลย หรือตอนนั้นที่รู้สึกหวาดกลัวบางอย่าง ทุกช่วงเวลาฉันก็เป็นตัวฉัน 




戸惑いや裏切りに 行き場のない感情を

tomadoi ya uragiri ni ikiba no nai kanjou wo

ความลังเลกับการทรยศหักหลัง สิ่งชดเชยสำหรับ

撒き散らした代償に 何を手にして来れたかな

makichirashita daishou ni nani wo te ni shite koreta kana

ความรู้สึกอันไร้ที่ไปที่ฉันโปรยหว่านไป ฉันได้อะไรกลับมากันนะ




そう、

sou,

ใช่แล้ว,

「ここだよ」叫びながら

‘koko da yo’ sakebi nagara

จะขณะที่ตะโกนออกไปว่า ‘ฉันอยู่ตรงนี้’

「愛して」と願いながら

‘aishite’ to negai nagara

หรือขณะที่ปรารถนาว่า ‘รักฉันสิ’

駆け出したこの道を走り続けるだけ

kakedashita kono michi wo hashiritsuzukeru dake

ฉันก็ทำได้เพียงวิ่งต่อไปบนเส้นทางที่ตัวเองออกวิ่งมา




「いけ、わたしよ 行け!」って

‘ike, watashi yo ike!’ tte

‘ไปเลย, ตัวฉัน ไปเลยสิ!’

もう、誰も追いつけない場所まで 乱気流さえ追い越して

mou, dare mo oitsukenai basho made rankiryuu sae oikoshite

แซงหน้ากระทั่งกระแสอากาศปั่นป่วน และไปให้ถึงสถานที่ที่ไม่มีใครตามทันได้อีก

まだ知らない私を見たい

mada shiranai watashi wo mitai

ฉันอยากเห็นตัวเองที่ฉันยังไม่รู้จัก




「いま、わたしの今!」って

‘ima, watashi no ima!’ tte

‘ตอนนี้แหละ, ช่วงเวลาตอนนี้ของตัวฉัน’

そう、確かに描いていた未来 やり遂げたいの

sou, tashika ni egaiteita mirai yaritogetai no

ใช่แล้ว, อนาคตที่วาดฝันไว้อย่างหนักแน่น ฉันอยากทำมันให้สำเร็จ

誰のせいにもしない

dare no sei ni mo shinai

ฉันจะไม่โทษว่าเป็นความผิดของใครทั้งนั้น




昔から弱虫のくせに 気づかないふりをしてきたね

mukashi kara yowamushi no kuse ni kizukanai furi wo shitekita ne

ทั้งที่ฉันเป็นคนอ่อนแอมานานแล้ว แต่ก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น

「ツラくない」

‘tsurakunai’

‘ไม่เจ็บปวดหรอก’

“大事”だって守りながら いつも「大丈夫」って笑いながら

“daiji” datte mamori nagara itsumo ‘daijoubu’ tte warai nagara

จะขณะที่ปกป้อง สิ่งสำคัญ ไว้ หรือขณะที่ยิ้มแล้วบอกว่า ‘ไม่เป็นไรหรอก’ ในแบบทุกที

「変わりたい」と泣いていた

‘kawaritai’ to naiteita

ฉันก็ร้องไห้ออกมาว่า ‘อยากเปลี่ยนแปลงไป’




「ごめんね」って やっと聞こえない残響になった

‘gomen ne’ tte yatto kikoenai zankyou ni natta

คำว่า ‘ขอโทษนะ’ ในที่สุดมันก็ได้กลายเป็นเสียงสะท้อนที่ไม่ได้ยินไปแล้ว

時を追い越して もう、そこにはいないの私

toki wo oikoshite mou, soko ni wa inai no watashi

แซงหน้าช่วงเวลาไป ที่ตรงนั้นไม่มีฉันอยู่อีกต่อไปแล้ว

「置いて行け!」そうね

‘oiteike!’ sou ne

‘ช่างฉันแล้วไปเถอะ!’ นั่นสินะ

思い出に浸ることもない程 今に夢中

omoide ni hitaru koto mo nai hodo ima ni muchuu

ฉันกำลังหมกมุ่นอยู่กับปัจจุบัน ที่ฉันไม่สามารถจมปลักอยู่กับความทรงจำได้อีกแล้ว




「わたしよ 行け!」って

‘watashi yo ike!’ tte

‘ตัวฉัน ไปเลยสิ!’

もう、誰も追いつけない場所まで

mou, dare mo oitsukenai basho made

ไปให้ถึงสถานที่ที่ไม่มีใครตามทันได้อีก

加速していけ 運命なんて気にしてる暇ないんだって

kasokushiteike unmei nante ki ni shiteru hima nain datte

เร่งความเร็วไป ไม่มีเวลามาคิดมากเรื่องโชคชะตาแล้วนะ




「いま、わたしの今!」って

‘ima, watashi no ima!’ tte

‘ตอนนี้แหละ, ช่วงเวลาตอนนี้ของตัวฉัน’

そう、あの日の涙からの未来 辿り着いたわ

sou, ano hi no namida kara no mirai tadoritsuita wa

ใช่แล้ว, ฉันได้มาถึงยังอนาคตที่มาจากน้ำตาในวันนั้น

嗚呼、まだみてみたいの

aa, mada mite mitai no

อา, ฉันยังคงอยากเห็นต่อไป

嗚呼、キミト アスへ 世界は万華鏡

aa, kimi to asu e sekai wa mangekyou

อา, มุ่งสู่วันพรุ่งนี้ไปพร้อมกับเธอ โลกใบนี้คือภาพจากกล้องสลับลาย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น