only my railgun / fripSide
放て!心に刻んだ夢を 未来さえ置き去りにして
hanate! kokoro ni kizanda yume wo mirai sae okizari ni shite
ปล่อยออกไป! ความฝันที่ถูกจารึกไว้ในใจ แม้กระทั่งอนาคตก็ถูกมันทิ้งไว้ข้างหลัง
限界など知らない 意味無い!
genkai nado shiranai imi nai!
ขีดจำกัดน่ะ ฉันไม่รู้จักหรอก มันไร้ความหมาย!
この能力(チカラ)が光散らす その先に遥かな想いを
kono chikara ga hikari chirasu sono saki ni haruka na omoi wo
พลังพิเศษนี้จะทำให้แสงสว่างกระจายไปทั่วความรู้สึกที่ห่างไกลออกไป
歩いてきた この道を 振り返ることしか
aruitekita kono michi wo furikaeru koto shika
หากฉันทำได้เพียง มองย้อนกลับไปยังเส้นทางนี้
出来ないなら…今ここで全てを壊せる
dekinai nara… ima koko de subete wo kowaseru
ที่เดินผ่านมา… ในตอนนี้ ฉันก็สามารถทำลายทุกสิ่ง ณ ที่ตรงนี้ได้เลย
暗闇に堕ちる街並み 人はどこまで立ち向かえるの?
kurayami ni ochiru machinami hito wa dokomade tachimukaeru no?
ในทิวทัศน์ของเมืองที่ตกลงสู่ความมืดมิด
ผู้คนจะสามารถยืนหยัดเผชิญหน้าไปได้ไกลแค่ไหนกัน?
加速するその痛みから 誰かをきっと守れるよ
kasokusuru sono itami kara dareka wo kitto mamoreru yo
ฉันจะต้องสามารถปกป้องใครสักคน จากความเจ็บปวดนั้นที่เร่งความเร็วขึ้นได้อย่างแน่นอน
Looking!
Looking!
The blitz loop this planet to search way.
The blitz loop this planet to search way.
Only my RAILGUN can shoot it. 今すぐ
Only my RAILGUN can shoot it. ima sugu
Only my RAILGUN can shoot it. ในตอนนี้เลย
身体中を 光の速さで
karadajuu wo hikari no hayasa de
ลางสังหรณ์อันหนักแน่นได้ไหลเวียนอยู่
駆け巡った 確かな予感
kakemegutta tashika na yokan
ทั่วร่างกายของฉันด้วยความเร็วแสง
掴め!望むものなら残さず 輝ける自分らしさで
tsukame! nozomu mono nara nokosazu kagayakeru jibun rashisa de
คว้าไว้สิ! หากเป็นสิ่งที่ปรารถนา ก็อย่าได้หลงเหลือไว้
และจงเปล่งประกายออกมาในแบบของตัวเอง
信じてるよ あの日の誓いを
shinjiteru yo ano hi no chikai wo
เชื่อมั่นสิ เชื่อในคำสาบานในวันนั้น
この瞳に光る涙 それさえも強さになるから
kono hitomi ni hikaru namida sore sae mo tsuyosa ni naru kara
เพราะแม้แต่หยาดน้ำตาที่ทอประกายในแววตาคู่นี้ ก็กลายเป็นความเข้มแข็งได้
立ち止まると 少しだけ 感じる切なさに
tachidomaru to sukoshi dake kanjiru setsunasa ni
ฉันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดเล็กน้อย ขณะที่ยืนนิ่งอยู่
戸惑う事 無いなんて嘘はつかないよ
tomadou koto nai nante uso wa tsukanai yo
แต่ฉันก็โกหกออกไปว่า ไม่มีทางที่ฉันจะสับสน
宇宙(そら)に舞うコインが描く 放物線が決める運命
sora ni mau koin ga egaku houbutsusen ga kimeru unmei
เส้นโค้งพาราโบลาที่เหรียญวาดขึ้นในห้วงอวกาศ จะกำหนดโชคชะตา
打ち出した答えが今日も 私の胸を駆け巡る
uchidashita kotae ga kyou mo watashi no mune wo kakemeguru
คำตอบที่ถูกยิงออกไป วันนี้เองมันก็ยังวนเวียนอยู่รอบ ๆ หัวใจของฉัน
Sparkling!
Sparkling!
The shiny lights awake true desire.
The shiny lights awake true desire.
Only my RAILGUN can shoot it.必ず
Only my RAILGUN can shoot it. kanarazu
Only my RAILGUN can shoot it. อย่างแน่นอนเลย
貫いてく 途惑うことなく
tsuranuiteku tomadou koto naku
ทะลุฝ่าไป โดยไร้ซึ่งความสับสน
傷ついても 走り続ける
kizutsuitemo hashiri tsuzukeru
แม้ว่าจะเจ็บปวด ฉันก็จะยังวิ่งต่อไป
狙え!凛と煌く視線は 狂い無く闇を切り裂く
nerae! rinto kirameku shizen wa kurui naku yami wa kirisaku
เล็งไว้! ด้วยสายตาอันกล้าหาญและเปล่งประกายจะสะบั้นความืดมิดอย่างแม่นยำ
迷いなんて 吹き飛ばせばいい
mayoi nante fukitobaseba ii
ความลังเลอะไรนั่น แค่เป่ามันให้กระเด็นไปก็พอ
この心が叫ぶ限り 誰ひとり邪魔などさせない
kono kokoro ga sakebu kagiri dare hitori jama nado sasenai
ตราบใดที่หัวใจดวงนี้ยังกู่ร้องออกมาฉันจะไม่ยอมให้ใครสักคนมาขวางทางเด็ดขาด
儚く舞う 無数の願いは
hakanaku mau musuu no negai wa
คำอธิษฐานนับไม่ถ้วนที่โปรยปรายอย่างแผ่วเบา
この両手に 積もってゆく
kono ryoute ni tsumotteyuku
กำลังกองสุมบนฝ่ามือคู่นี้
切り裂く闇に 見えてくるのは
kirisaku yami ni miete kuru no wa
สิ่งที่มองเห็นผ่านความมืดที่ถูกสะบั้น
重く深く 切ない記憶
omoku fukaku setsunai kioku
คือความทรงจำที่เจ็บปวด ลึกล้ำและหนักอึ้ง
色褪せてく 現実に揺れる
iroaseteku genjitsu ni yureru
ฉันไม่อยากยอมแพ้ให้ความสิ้นหวัง
絶望には 負けたくない
zetsubou ni wa maketakunai
ที่สั่นไหวในความเป็นจริงอันเลือนราง
私が今 私であること
watashi ga ima watashi de aru koto
ตัวฉันจะยืดอกรับสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้
胸を張って 全て誇れる!
mune wo hatte subete hokoreru!
และภูมิใจกับทุกสิ่งที่มี!
Looking!
Looking!
The blitz loop this planet to search way.
The blitz loop this planet to search way.
Only my RAILGUN can shoot it. 今すぐ
Only my RAILGUN can shoot it. ima sugu
Only my RAILGUN can shoot it. ในตอนนี้เลย
身体中を 光の速さで
karadajuu wo hikari no hayasa de
ลางสังหรณ์อันหนักแน่นได้ไหลเวียนอยู่
駆け巡った 確かな予感
kakemegutta tashika na yokan
ทั่วร่างกายของฉันด้วยความเร็วแสง
放て!心に刻んだ夢を 未来さえ置き去りにして
hanate! kokoro ni kizanda yume wo mirai sae okizari ni shite
ปล่อยออกไป! ความฝันที่ถูกจารึกไว้ในใจแม้กระทั่งอนาคตก็ถูกมันทิ้งไว้ข้างหลัง
限界など知らない 意味無い!
genkai nado shiranai imi nai!
ขีดจำกัดน่ะ ฉันไม่รู้จักหรอก มันไร้ความหมาย!
この能力(チカラ)が光散らす その先に遥かな想いを
kono chikara ga hikari chirasu sono saki ni haruka na omoi wo
พลังพิเศษนี้จะทำให้แสงสว่างกระจายไปทั่วความรู้สึกที่ห่างไกลออกไป
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นก็เข้าสู่วันที่ 12 กรกฎาคม
ซึ่งเป็นวันเกิดของนันจัง หรือคุณนันโจ โยชิโนะ
นักร้อง/นักพากย์ผมที่ชื่นชอบนั่นเองครับ
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวว่า “สุขสันต์วันเกิดนะครับ
ขออวยพรให้คุณนันโจมีความสุขมาก ๆ มีสุขภาพแข็งแรง แล้วก็มีอายุ 17 ตลอดไป
555”
ก็เป็นสิ่งที่ทำมาเกือบทุกปีจนน่าจะเรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมของบล็อกไปแล้วมั้ง
ที่ลงแปลเพลงของนันจังที่รู้สึกชอบเป็นพิเศษลงในวันนี้
ที่ใช้คำว่าเกือบทุกปีก็เพราะปี 2018 นี่ไม่ได้ลง
เพราะเพลงที่อยากลงยังไม่ออก 555
เพลงที่ว่าก็คือเพลง blessing symphony นั่นเอง แต่ก็แปลลงทีหลัง
แต่ไม่ได้เขียนอะไรทิ้งท้ายไว้
ส่วนเพลงในครั้งนี้ไม่ใช่เพลงที่ร้องในชื่อของนันจังโดยตรง
แต่เป็นเพลงที่นันจังร้องในชื่อวง fripSide เพลง only my railgun
นั่นเอง
สำหรับความพิเศษของเพลงนี้ที่ทำให้เลือกมาแปลก็คือ
เพลงนี้เป็นเพลงที่ทำให้ผมได้รู้จักชื่อของนันจังเป็นครั้งแรก
ย้อนกลับไปช่วง 9-10 ปีก่อน เป็นช่วงที่เริ่มดู To Aru Kagaku no Railgun
ตอนที่ได้ยินเพลงนี้ครั้งแรกก็รู้สึกชอบอย่างบอกไม่ถูก
เลยไปค้นหาชื่อของศิลปิน ก็ไปเจอกับชื่อวง fripSide แล้วก็เจอชื่อของ
‘คุณนันโจ โยชิโนะ’ ที่เป็นนักร้องนำของวง หลังจากนั้นก็เริ่มติดตามผลงานของนันจังเรื่อยมาเลย
แล้วก็เพลงนี้เพิ่งครบรอบ 10 ปีไปเมื่อช่วงเดือนตุลาฯ ปี 2019
และเดือนเมษาฯ ที่ผ่านมาก็ได้ออกเวอร์ชั่น 2020
ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ร้องใหม่หมดเลยแต่เนื้อร้องเดิม
(บอกตามตรงว่าตอนแรกผมก็แอบคาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนเนื้อร้องบางส่วนหมือนกันนะ
555)
แต่สำหรับผมชอบเวอร์ชั่นปกติมากกว่านะ
น่าจะเป็นเพราะว่าฟังมานานจนติดไปแล้วก็ได้มั้ง
สุดท้ายนี้ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรือไม่ถูกใจ ก็ต้องขออภัยไว้ ณ
ที่นี้ด้วยครับ
ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่านกันนะครับ :)