วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2565

Haruzora / Minase Inori



春空 / 水瀬いのり




春空に残る淋しさ そっと心を濡らした

haruzora ni nokoru sabishisa sotto kokoro wo nurashita

ความเหงาที่ท้องฟ้าฤดูใบไม้ผลิหลงเหลือเอาไว้ ค่อย ๆ ทำให้หัวใจของฉันเปียกชุ่ม

さようならとはじめまして 飛び交う季節の中

sayounara to hajimemashite tobikau kisetsu no naka

ทั้งคำว่า ‘ลาก่อน’ และ ‘ยินดีที่ได้รู้จัก’ ต่างก็บินวนเวียนอยู่ในฤดูกาล

肌寒い だけど眩しい

hadasamui dakedo mabushii

ถึงอากาศจะเย็นไปบ้าง แต่ก็เป็นวันที่เจิดจ้า

吹き抜けてく 始まり告げる風 hello

fukinuketeku hajimari tsugeru kaze hello

สายลมที่พัดผ่านเข้ามาบอก hello ให้รู้ถึงการเริ่มต้น

うすべに色が ふわりふわり

usubeni iro ga fuwari fuwari

กลีบดอกไม้สีชมพูอ่อนลอยละล่องไปตามลม




心配ごと 少し重い でもね きっと大丈夫

shinpaigoto sukoshi omoi demo ne kitto daijoubu

เรื่องทุกข์ใจ อาจจะหนักไปนิดนึง แต่รับรองว่า ต้องไม่เป็นไรแน่นอน

あたたかい声が見守ってるの 遠くで

atatakai koe ga mimamotteru no tooku de

เพราะว่ามีเสียงอันอบอุ่นของเธอ คอยเฝ้ามองฉันอยู่ จากที่ห่างไกล




いつもためらう道 一歩踏み出してみよう

itsumo tamerau michi ippo fumidashite miyou

บนเส้นทางที่รู้สึกลังเลอยู่เสมอ ฉันลองก้าวไปดูสักก้าว

自分の歩幅(ペース)でいいから 新たな季節を感じて

jibun no peesu de ii kara aratana kisetsu wo kanjite

ด้วยก้าวของตัวเอง และรู้สึกถึงฤดูกาลใหม่

今は知らない景色 いつかこの目で見たい

ima wa shiranai keshiki itsuka kono me de mitai

ทิวทัศน์ที่ตอนนี้ยังไม่รู้จัก สักวันหนึ่งฉันก็อยากจะเห็นมันด้วยตาคู่นี้

青くきらめく春空に舞え

aoku kirameku haruzora ni mae

ฉันร่ายรำไปบนท้องฟ้าฤดูใบไม้ผลิที่ทอประกายสีคราม




後悔をしたくないからずっと前だけ見てきた

koukai wo shitakunai kara zutto mae dake mitekita

เพราะไม่อยากรู้สึกเสียใจทีหลัง จึงมองแต่เพียงข้างหน้า 

だけどそれじゃ気づけないよ 昨日までの足跡

dakedo sore ja kizukenai yo kinou made no ashiato

แต่แบบนั้น ก็จะไม่รู้สึกถึงรอยเท้าที่หลงเหลือไว้จนถึงเมื่อวานน่ะสิ

でこぼこな日々はいつしか

dekoboko na hibi wa itsushika

ถึงบางวันจะเป็นวันที่ไม่ราบเรียบ 

今日を歩む力に変わるんだ believe

kyou wo ayumu chikara ni kawarunda believe

แต่ฉันก็เชื่อว่า มันจะเปลี่ยนเป็นพลังให้ก้าวเดินไปในวันนี้

色あせないよ ずっとずっと

iroasenai yo zutto zutto

และจะไม่เลือนหายไป ตลอดไปเลย




届かなくて もどかしくて そんな夜もあるけれど

todokanakute modokashikute sonna yoru mo aru keredo

ทั้งเอื้อมไปไม่ถึง และรู้สึกไม่สบอารมณ์ มันก็ต้องมีค่ำคืนแบบนั้นบ้าง แต่ว่า

あのとき交わした言葉がここにあるから

ano toki kawashita kotoba ga koko ni aru kara

ฉันยังมีคำพูดที่เราพูดคุยกันในตอนนั้นอยู่




いつもとまどう道 そっと瞳をとじて

itsumo tomadou michi sotto hitomi wo tojite

บนเส้นทางที่รู้สึกลังเลอยู่เสมอ ฉันค่อย ๆ หลับตาลง

未来をイメージしよう 消えない光を信じて

mirai wo imeeji shiyou kienai hikari wo shinijite

และนึกภาพของอนาคต ฉันเชื่อมั่นในแสงสว่างที่ไม่หายไป

今は小さな自信 きっと咲き誇るから

ima wa chiisana jishin kitto sakihokoru kara 

เพราะตอนนี้ความมั่นใจเล็ก ๆ จะต้องเบ่งบานออกอย่างแน่นอน

春めく空へ 思い託して

harumeku sora e omoi takushite

ฉันฝากความรู้สึกไว้กับท้องฟ้าที่ราวกับอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ




小さな勇気 ポケットにつめて 深呼吸

chiisana yuuki poketto ni tsumete shinkokyu

ความกล้าหาญเล็ก ๆ ถูกเก็บอยู่ในกระเป๋า ฉันสูดหายใจลึก ๆ




いつもためらう道 一歩踏み出してみよう

itsumo tamerau michi ippo fumidashite miyou

บนเส้นทางที่รู้สึกลังเลอยู่เสมอ ฉันลองก้าวไปดูสักก้าว

自分の歩幅(ペース)でいいから 新たな季節を感じて

jibun no peesu de ii kara aratana kisetsu wo kanjite

ด้วยก้าวของตัวเอง และรู้สึกถึงฤดูกาลใหม่

今は知らない景色 いつかこの目で見たい

ima wa shiranai keshiki itsuka kono me de mitai

ทิวทัศน์ที่ตอนนี้ยังไม่รู้จัก สักวันหนึ่งฉันก็อยากจะเห็นมันด้วยตาคู่นี้

青くきらめく春空に舞え

aoku kirameku haruzora ni mae

ฉันร่ายรำไปบนท้องฟ้าฤดูใบไม้ผลิที่ทอประกายสีคราม

もう迷わない 夢見た空へ

mou mayowanai yume mita sora e

ไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว ฉันมุ่งไปสู่ท้องฟ้าที่เคยฝันเห็น


วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2565

MOTTO-ZUTTO be with you / Kurosawa Dia (CV : Komiya Arisa)



MOTTO-ZUTTO be with you / 黒澤 ダイヤ (CV : 小宮 有紗)




ひとり想う願い 今はまだ胸の中

hitori omou negai ima wa mada mune no naka

คำอธิษฐานที่ฉันเฝ้านึกถึงอยู่เพียงลำพัง ตอนนี้มันก็ยังคงอยู่ภายในใจ

きらり光った夢が集まって星座になって

kirari hikatta yume ga atsumatte seiza ni natte

ความฝันที่ส่องแสงระยิบระยิบ รวมตัวกันก่อเกิดเป็นกลุ่มดาว

地上から指差す 迷い人導くの

chijou kara yubisasu mayoibito michibiku no

คอยนำทางให้ผู้หลงทางที่ชี้นิ้วขึ้นมาจากบนผืนดิน

これは妄想でしょうか

kore wa mousou deshou ka

สิ่งนี้คือความเพ้อฝันงั้นเหรอ

no, no, no, no, no! 未来です

no, no, no, no, no! mirai desu

no, no, no, no, no! มันคืออนาคตต่างหาก




毎日好きなこと 好き過ぎることなどを

mainichi suki na koto suki sugiru koto nado wo

สิ่งที่รู้สึกชอบในทุก ๆ วัน และสิ่งที่ชอบมาก ๆ

描いて生きるのが これからの私たち

egaite ikiru no ga korekara no watashitachi

คนที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อวาดมันขึ้นมา ก็คือพวกเราในช่วงเวลานับจากนี้ไป

数えきれない星のように

kazoekirenai hoshi no you ni

บนผืนฟ้ากว้างใหญ่ที่ความตื่นเต้นของแต่ละคน

それぞれのときめきが輝く大空で

sorezore no tokimeki ga kagayaku oozora de

เปล่งประกายออกมาราวกับดวงดาวมากมายนับไม่ถ้วน

逢いましょう 逢いましょう be with you

aimashou aimashou be with you

พวกเรามาพบกันเถอะ มาพบกันเถอะนะ be with you




‘มากมายนับไม่ถ้วน มากขึ้นอีก และตลอดไป’




もう強く強く求めるのを恥じないで

mou tsuyoku tsuyoku motomeru no wo hajinaide

อย่ารู้สึกอับอายเลย ที่จะร้องขออย่างแรงกล้า

叶うはずと夢の曖昧さを排除して

kanau hazu to yume no aimai sa wo haijo shite

ขจัดความไม่แน่นอนของความฝันที่ว่าอาจจะกลายเป็นจริงทิ้งไปซะ




本当に好きなこと 好き過ぎることだけに

hontou ni suki na koto suki sugiru koto dake ni

เพียงสิ่งที่รู้สึกชอบจริง ๆ และสิ่งที่ชอบมาก ๆ

心を捧げましょう これからは私たち

kokoro wo sasagemashou korekara wa watashitachi

นับจากนี้ไป พวกเรามาอุทิศทั้งหัวใจให้มันกันเถอะ

生まれたての希望には

umaretate no kibou ni wa

สำหรับความหวังที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่

涙より優しさを吸わせてあげたいと

namida yori yasashisa wo suwasete agetai to

ฉันอยากให้มันซึมซับความอ่อนโยนไว้ แทนที่จะเป็นน้ำตา

抱きしめる もっとずっと be with you

dakishimeru motto zutto be with you

และจะโอบกอดมันไว้ มากขึ้นอีก และตลอดไป be with you




‘มากมายนับไม่ถ้วน มากขึ้นอีก และตลอดไป มากขึ้นอีก’




数えきれない星のように

kazoekirenai hoshi no you ni

บนผืนฟ้ากว้างใหญ่ที่ความตื่นเต้นของแต่ละคน

それぞれのときめきが輝く大空で

sorezore no tokimeki ga kagayaku oozora de

เปล่งประกายออกมาราวกับดวงดาวมากมายนับไม่ถ้วน

逢いましょう 逢いましょうって

aimashou aimashou tte

พวกเรามาพบกันเถอะ มาพบกันเถอะนะ




伝えてみたくて いつの日か見つめあえるのも

tsutaete mitakute itsu no hi ka mitsumeaeru no mo

ฉันอยากลองบอกออกไป ว่าสักวันเราจะสามารถจ้องมองกันและกันได้

きっと運命の糸が絡んだ偶然

kitto unmei no ito ga karanda guuzen

มันต้องเป็นความบังเอิญแน่ ๆ ที่ด้ายแห่งโชคชะตาของเราพันกัน

だけどそれは必然だって言った方が

dakedo sore wa hitsuzen datte itta hou ga

แต่บอกว่าเป็นมันสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วจะดีกว่า

なんだか離れがたくなる気がする私です

nandaka hanare gataku naru ki ga suru watashi desu

ไม่รู้ทำไมตัวฉันถึงรู้สึกว่าพวกเรานั้นยากที่แยกจากกัน




‘be with you’




本当に好きなこと 好き過ぎることだけに

hontou ni suki na koto suki sugiru koto dake ni

เพียงสิ่งที่รู้สึกชอบจริง ๆ และสิ่งที่ชอบมาก ๆ

心を捧げましょう これからは私たち

kokoro wo sasagemashou korekara wa watashitachi

นับจากนี้ไป พวกเรามาอุทิศทั้งหัวใจให้มันกันเถอะ

生まれたての希望には

umaretate no kibou ni wa

สำหรับความหวังที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่

涙より優しさを吸わせてあげたいと

namida yori yasashisa wo suwasete agetai to

ฉันอยากให้มันซึมซับความอ่อนโยนไว้ แทนที่จะเป็นน้ำตา

抱きしめる もっとずっと be with you

dakishimeru motto zutto be with you

และจะโอบกอดมันไว้ มากขึ้นอีก และตลอดไป be with you

วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2565

Strobe Memory / Uchida Maaya



ストロボメモリー / 内田真礼




君が少し俯いたまま話していたからさ

kimi ga sukoshi utsumuita mama hanashiteita kara sa

เพราะว่าเธอพูดกับฉัน โดยก้มหน้าลงเล็กน้อย

いつもより一歩近く歩いてみたんだ

itsumo yori ippo chikaku aruite mitan da

ฉันจึงได้ลองเดินเข้าไปใกล้เธอมากกว่าทุกครั้งก้าวนึง




夕日 時計の針のように影が背伸びしてく

yuuhi tokei no hari no you ni kage ga senobishiteku

อาทิตย์ลับขอบฟ้า เงากำลังยืดยาวออกราวกับเข็มนาฬิกา

街は急ぎ足 次の季節の声がした

machi wa isogiashi tsugi no kisetsu no koe ga shita

ในขณะที่ฉันกำลังเร่งรีบอยู่ภายในเมือง ฉันก็ได้ยินเสียงของฤดูกาลถัดไป




愛 とか言うのも言葉にしちゃ呆気ないもんだな

ai to ka iu no mo kotoba ni shicha akkenai mon da na

สำหรับคำพูดอย่างคำวา ‘รัก’ มันเป็นคำที่สั้นเกินไป

一人にさえならなきゃ理解できるもんだと思ってた

hitori ni sae nara nakya rikai dekiru mon da to omotteta

แต่ฉันก็คิดว่า มันเป็นสิ่งที่ฉันเข้าใจได้ หากฉันอยู่ลำพัง




あの街灯はこれまで 誰を導いてきたの?

ano gaitou wa kore made dare wo michibiitekita no?

แสงไฟตามถนนนั้น นำทางใครมาถึงตรงนี้กันนะ?

「見てごらん綺麗だよ」

“mite goran kirei da yo”

“ลองมองดูสิ มันสวยมากเลยล่ะ”




約束の言葉 大好きな花 ポッケの宝物

yakusoku no kotoba daisuki na hana pokke no takaramono

คำสัญญาของเรา ดอกไม้แสนรัก และของล้ำค่าในกระเป๋า 

そんなキラキラごと君も消えちゃいそうでさ...

sonna kirakira goto kimi mo kiechai sou de sa…

ดูเหมือนของระยิบระยับเหล่านั้น และตัวเธอจะเลือนหายไปเลย...

走り出していた 間に合うかな? 手は握ってるよ

hashiri dashiteita ma ni au kana? te wa nigitteru yo

ฉันจึงได้ออกวิ่งไป จะทันเวลามั้ยนะ? ฉันกำมือไว้แน่น




多分この世界 広くはない

tabun kono sekai hiroku wa nai

บางที โลกใบนี้คงไม่ได้กว้างใหญ่

今日は僕が一歩踏み出すから

kyou wo boku ga ippo fumidasu kara

วันนี้ฉันจะก้าวออกไปก้าวนึง




夜更け 時計の針以外音を失った部屋

yofuke tokei no hari igai oto wo ushinatta heya

ตอนกลางดึก ภายในห้องไม่มีเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงของเข็มนาฬิกา

大切なものは夢に連れて行ったりもした

taisetsu na mono wa yume ni tsureteittari mo shita

ฉันทำแม้กระทั่งพาสิ่งสำคัญไปสู่ความฝัน




そんなことをさ いつまでも覚えてるままで

sonna koto wo sa itsumademo oboeteru mama de

ฉันยังคงจดจำเรื่องราวเช่นนั้นไปตลอด

瞬きの間に見逃したものばかり信じた 行かなくちゃ

mabataki no aida ni minogashita mono bakari shinjita ikanakucha

และเชื่อมั่นแต่เพียงสิ่งที่พลาดไปในช่วงที่กระพริบตา ฉันต้องไปแล้วล่ะ




信号の青と赤 僕を急かして

shingou no ao to aka boku wo sekashite

แสงสีเขียวและแดงจากไฟจราจร เร่งเร้าตัวฉัน

なんだか 何かに似ているよ

nandaka nanika ni niteiru yo

ไม่รู้ทำไม มันถึงดูคล้ายกับอะไรบางอย่าง




君は指差した空の色とその変わり方を

kimi wa yubisashita sora no iro to sono kawari kata wo

สีของท้องฟ้าที่เธอชี้ และการเปลี่ยนสีไปของมันน่ะ

絶えずゆっくりと綺麗に変わってくもんだな

taezu yukkuri to kirei ni kawatteku mon da na

เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ และงดงาม

わかり始めてた 大切な程 それは起こること

wakari hajimeteta taisetsu na hodo sore wa okoru koto

ฉันได้เริ่มเข้าใจถึงสิ่งสำคัญที่เกิดขึ้น




だから残らずここには無い

dakara nokorazu koko ni wa nai

เพราะฉะนั้น ฉันไม่มีอะไรต้องเหลือทิ้งไว้แล้วล่ะ

嫌んなるくらい思い出せるのに...

iyan naru kurai omoidaseru no ni…

ทั้งที่ฉันสามารถนึกออกจนรู้สึกเบื่อได้เลยล่ะ... 




空の色の変わり方を初めて見たあの日

sora no iro no kawari kata wo hajimete mita ano hi

ในวันนั้นที่ฉันได้เริ่มเห็นการเปลี่ยนสีของท้องฟ้า

君と同じ景色を見て 僕が泣いてたあの日

kimi to onaji keshiki wo mite boku ga naiteta ano hi

ในวันนั้นฉันมองภาพทิวทัศน์เดียวกันกับเธอ และได้ร้องไห้ออกมา




約束しようか きっと僕らは出会えてよかった

yakusokushiyou ka kitto bokura wa deaete yokatta

มาสัญญากันมั้ย ฉันดีใจจริง ๆ ที่เราได้เจอกัน

愛だとかなんとかってやつに頼ってみたいのさ

ai da to ka nantoka tte yatsu ni tayotte mitai no sa

ฉันอยากลองพึ่งพาคำว่า ‘รัก’ หรืออะไรแบบนั้นดู

走り出していた 間に合うかな?

hashiri dashiteita maniau kana?

ฉันจึงได้ออกวิ่งไป จะทันเวลามั้ยนะ?

手は握ってるよ

te wa nigitteru yo

ฉันกำมือไว้แน่น




今は願う 未来 君と見たい

ima wa negau mirai kimi to mitai

ตอนนี้ฉันอธิษฐาน ว่าฉันอยากพบกับเธอในอนาคต

そう気づいてからは速かった

sou kizuite kara wa hayakatta

พอรู้สึกตัว เวลาก็ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว




南南西に強い光 ずっと追い続けた

nannansei ni tsuyoi hikari zutto oitsuzuketa

ฉันไล่ตามแสงสว่างอันแรงกล้าไปทางทิศที่อยู่ระหว่างทิศใต้กับตะวันตกเฉียงใต้มาโดยตลอด

明日明後日もその先でも変わる空の下で

asu asatte mo sono saki demo kawaru sora no shita de

จะวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้ หรือต่อจากนี้ไป ภายใต้ท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป

だんだん顔を上げる2人 離さないでいて

dandan kao wo ageru futari hanasanaide ite

เราสองคนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เธออย่าจากฉันไปเลยนะ

多分この世界 広くはない

tabun kono sekai hiroku wa nai

บางที โลกใบนี้คงไม่ได้กว้างใหญ่

絶えず僕は一歩踏み出すから

taezu boku wa ippo fumidasu kara

ฉันจะก้าวออกไปเรื่อย ๆ ก้าวนึง




とても眩しかった

totemo mabushikatta

ดูเจิดจ้ามากเลยล่ะ

君は笑っていた

kimi wa waratteita

ตอนที่เธอกำลังยิ้มออกมาน่ะ