ストロボメモリー / 内田真礼
君が少し俯いたまま話していたからさ
kimi ga sukoshi utsumuita mama hanashiteita kara sa
เพราะว่าเธอพูดกับฉัน โดยก้มหน้าลงเล็กน้อย
いつもより一歩近く歩いてみたんだ
itsumo yori ippo chikaku aruite mitan da
ฉันจึงได้ลองเดินเข้าไปใกล้เธอมากกว่าทุกครั้งก้าวนึง
夕日 時計の針のように影が背伸びしてく
yuuhi tokei no hari no you ni kage ga senobishiteku
อาทิตย์ลับขอบฟ้า เงากำลังยืดยาวออกราวกับเข็มนาฬิกา
街は急ぎ足 次の季節の声がした
machi wa isogiashi tsugi no kisetsu no koe ga shita
ในขณะที่ฉันกำลังเร่งรีบอยู่ภายในเมือง ฉันก็ได้ยินเสียงของฤดูกาลถัดไป
愛 とか言うのも言葉にしちゃ呆気ないもんだな
ai to ka iu no mo kotoba ni shicha akkenai mon da na
สำหรับคำพูดอย่างคำวา ‘รัก’ มันเป็นคำที่สั้นเกินไป
一人にさえならなきゃ理解できるもんだと思ってた
hitori ni sae nara nakya rikai dekiru mon da to omotteta
แต่ฉันก็คิดว่า มันเป็นสิ่งที่ฉันเข้าใจได้ หากฉันอยู่ลำพัง
あの街灯はこれまで 誰を導いてきたの?
ano gaitou wa kore made dare wo michibiitekita no?
แสงไฟตามถนนนั้น นำทางใครมาถึงตรงนี้กันนะ?
「見てごらん綺麗だよ」
“mite goran kirei da yo”
“ลองมองดูสิ มันสวยมากเลยล่ะ”
約束の言葉 大好きな花 ポッケの宝物
yakusoku no kotoba daisuki na hana pokke no takaramono
คำสัญญาของเรา ดอกไม้แสนรัก และของล้ำค่าในกระเป๋า
そんなキラキラごと君も消えちゃいそうでさ...
sonna kirakira goto kimi mo kiechai sou de sa…
ดูเหมือนของระยิบระยับเหล่านั้น และตัวเธอจะเลือนหายไปเลย...
走り出していた 間に合うかな? 手は握ってるよ
hashiri dashiteita ma ni au kana? te wa nigitteru yo
ฉันจึงได้ออกวิ่งไป จะทันเวลามั้ยนะ? ฉันกำมือไว้แน่น
多分この世界 広くはない
tabun kono sekai hiroku wa nai
บางที โลกใบนี้คงไม่ได้กว้างใหญ่
今日は僕が一歩踏み出すから
kyou wo boku ga ippo fumidasu kara
วันนี้ฉันจะก้าวออกไปก้าวนึง
夜更け 時計の針以外音を失った部屋
yofuke tokei no hari igai oto wo ushinatta heya
ตอนกลางดึก ภายในห้องไม่มีเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงของเข็มนาฬิกา
大切なものは夢に連れて行ったりもした
taisetsu na mono wa yume ni tsureteittari mo shita
ฉันทำแม้กระทั่งพาสิ่งสำคัญไปสู่ความฝัน
そんなことをさ いつまでも覚えてるままで
sonna koto wo sa itsumademo oboeteru mama de
ฉันยังคงจดจำเรื่องราวเช่นนั้นไปตลอด
瞬きの間に見逃したものばかり信じた 行かなくちゃ
mabataki no aida ni minogashita mono bakari shinjita ikanakucha
และเชื่อมั่นแต่เพียงสิ่งที่พลาดไปในช่วงที่กระพริบตา ฉันต้องไปแล้วล่ะ
信号の青と赤 僕を急かして
shingou no ao to aka boku wo sekashite
แสงสีเขียวและแดงจากไฟจราจร เร่งเร้าตัวฉัน
なんだか 何かに似ているよ
nandaka nanika ni niteiru yo
ไม่รู้ทำไม มันถึงดูคล้ายกับอะไรบางอย่าง
君は指差した空の色とその変わり方を
kimi wa yubisashita sora no iro to sono kawari kata wo
สีของท้องฟ้าที่เธอชี้ และการเปลี่ยนสีไปของมันน่ะ
絶えずゆっくりと綺麗に変わってくもんだな
taezu yukkuri to kirei ni kawatteku mon da na
เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ และงดงาม
わかり始めてた 大切な程 それは起こること
wakari hajimeteta taisetsu na hodo sore wa okoru koto
ฉันได้เริ่มเข้าใจถึงสิ่งสำคัญที่เกิดขึ้น
だから残らずここには無い
dakara nokorazu koko ni wa nai
เพราะฉะนั้น ฉันไม่มีอะไรต้องเหลือทิ้งไว้แล้วล่ะ
嫌んなるくらい思い出せるのに...
iyan naru kurai omoidaseru no ni…
ทั้งที่ฉันสามารถนึกออกจนรู้สึกเบื่อได้เลยล่ะ...
空の色の変わり方を初めて見たあの日
sora no iro no kawari kata wo hajimete mita ano hi
ในวันนั้นที่ฉันได้เริ่มเห็นการเปลี่ยนสีของท้องฟ้า
君と同じ景色を見て 僕が泣いてたあの日
kimi to onaji keshiki wo mite boku ga naiteta ano hi
ในวันนั้นฉันมองภาพทิวทัศน์เดียวกันกับเธอ และได้ร้องไห้ออกมา
約束しようか きっと僕らは出会えてよかった
yakusokushiyou ka kitto bokura wa deaete yokatta
มาสัญญากันมั้ย ฉันดีใจจริง ๆ ที่เราได้เจอกัน
愛だとかなんとかってやつに頼ってみたいのさ
ai da to ka nantoka tte yatsu ni tayotte mitai no sa
ฉันอยากลองพึ่งพาคำว่า ‘รัก’ หรืออะไรแบบนั้นดู
走り出していた 間に合うかな?
hashiri dashiteita maniau kana?
ฉันจึงได้ออกวิ่งไป จะทันเวลามั้ยนะ?
手は握ってるよ
te wa nigitteru yo
ฉันกำมือไว้แน่น
今は願う 未来 君と見たい
ima wa negau mirai kimi to mitai
ตอนนี้ฉันอธิษฐาน ว่าฉันอยากพบกับเธอในอนาคต
そう気づいてからは速かった
sou kizuite kara wa hayakatta
พอรู้สึกตัว เวลาก็ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว
南南西に強い光 ずっと追い続けた
nannansei ni tsuyoi hikari zutto oitsuzuketa
ฉันไล่ตามแสงสว่างอันแรงกล้าไปทางทิศที่อยู่ระหว่างทิศใต้กับตะวันตกเฉียงใต้มาโดยตลอด
明日明後日もその先でも変わる空の下で
asu asatte mo sono saki demo kawaru sora no shita de
จะวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้ หรือต่อจากนี้ไป ภายใต้ท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
だんだん顔を上げる2人 離さないでいて
dandan kao wo ageru futari hanasanaide ite
เราสองคนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เธออย่าจากฉันไปเลยนะ
多分この世界 広くはない
tabun kono sekai hiroku wa nai
บางที โลกใบนี้คงไม่ได้กว้างใหญ่
絶えず僕は一歩踏み出すから
taezu boku wa ippo fumidasu kara
ฉันจะก้าวออกไปเรื่อย ๆ ก้าวนึง
とても眩しかった
totemo mabushikatta
ดูเจิดจ้ามากเลยล่ะ
君は笑っていた
kimi wa waratteita
ตอนที่เธอกำลังยิ้มออกมาน่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น