Pianoforte Monologue / 桜内 梨子 (CV : 逢田 梨香子)
私のなか流れ出した音が たくさんあるの
watashi no naka nagaredashita oto ga takusan aru no
มีเสียงมากมายหลั่งไหลออกมาจากข้างในตัวฉัน
綺麗なだけじゃなくて でもねどこか優しい音が
kireina dake janakute demo ne dokoka yasashii oto ga
ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ว่าที่ไหนสักแห่งเสียงอันอ่อนโยน
新しい夢と涙 とけあったコンチェルト
atarashii yume to namida tokeatta koncheruto
ได้หลอมรวมความฝันใหม่และหยาดน้ำตาเข้าด้วยกันเป็นคอนแชร์โต
ずっとずっと眠ってたの?
zutto zutto nemutteta no?
มันหลับใหลมาโดยตลอด?
心の熱い願い
kokoro no atsui negai
ความปรารถนาอันร้อนแรงในใจฉัน
目覚めてって あの日きっと呼ばれてたと気がついた
mezamete tte ano hi kitto yobareteta to ki ga tsuita
ในวันนั้นฉันมั่นใจว่ารู้สึกได้ถึงเสียงเรียกบอกให้ลืมตาตื่นขึ้น
ひとりで向かう鍵盤だけど
hitori de mukau kenban dakedo
แม้ฉันจะเผชิญหน้ากับเปียโนเพียงลำพัง
感じる…ひとりじゃない
kanjiru...hitori janai
แต่ก็รู้สึกได้… ว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
気持ちはいつも繋がってるね
kimochi wa itsumo tsunagatteru ne
ความรู้สึกของเราเชื่อมถึงกันเสมอนะ
信じることができるから
shinjiru koto ga dekiru kara
ดังนั้นฉันจึงสามารถที่จะเชื่อมั่นได้
なんでも怖れずやってみようと決められる
nandemo osorezu yatte miyou to kimerareru
ไม่ว่าอะไรฉันก็ไม่กลัว ตัดสินใจว่าจะลองทำดู
強くなれるの
tsuyoku nareru no
และเข้มแข็งขึ้น
ふるえるほど緊張しても 私を待つ場所へ
furueru hodo kinchou shite mo watashi wo matsu basho e
แม้ว่าจะรู้สึกประหม่าจนตัวสั่น ฉันก็จะมุ่งหน้าไปยัง
向かおうと 息吸ってから大きく踏み出した
mukaou to iki sutte kara ookiku fumidashita
สถานที่ที่รอฉันอยู่ หลังจากสูดหายใจเข้าไปลึก ๆ ก็ก้าวไปด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่
そっとそっとあやす様に
sotto sotto ayasu you ni
ถ้าค่อย ๆ ถ้าค่อย ๆขยับปลายนิ้ว
指先動かしたら
yubisaki ugokashitara
ราวกับปลอบโยน
微笑んでアルペジオ さあ自由になれる
hohoende arupejio saa jiyuu ni nareru
จะต้องบรรเลงอาร์เพจจิโอออกมาด้วยรอยยิ้มได้ เอาล่ะ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเป็นอิสระ
あなたを音で抱きしめたいの
anata wo oto de dakishimetai no
ฉันอยากจะโอบกอดเธอไว้ด้วยเสียงเพลง
受けとってこの想い
uketotte kono omoi
รับไว้ทีสิ ความรู้สึกนี้น่ะ
ありがとうって声届けたくて
arigatou tte koe todoketakute
ฉันอยากจะส่งเสียงออกไปว่าขอบคุณ
弾いてるつもり このメロディー
hiiteru tsumori kono merodii
ฉันจึงตั้งใจจะบรรเลงท่วงทำนองนี้
なんて大げさに聞こえるかな でも本当よ
nante oogesa ni kikoeru kana demo hontou yo
จะฟังดูยิ่งใหญ่เกินไปมั้ยนะ แต่ว่าที่จริงแล้วน่ะ
忘れないでね
wasurenaide ne
อย่าได้ลืมมันไปเลยนะ
ピアノなら伝えられそう みんなには感謝してること
piano nara tsutaerare sou minna ni wa kansha shiteru koto
ถ้าเป็นเปียโน จะต้องสามารถถ่ายทอดความรู้สึกขอบคุณที่มีให้ทุกคนออกไปได้
だから だから何度でも弾きたい喜びの調べを
dakara dakara nando demo hikitai yorokobi no shirabe wo
เพราะฉะนั้น เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะกี่ครั้งฉันก็อยากจะบรรเลงท่วงทำนองอันแสนสนุกสนาน
あなたを音で抱きしめたいの
anata wo oto de dakishimetai no
ฉันอยากจะโอบกอดเธอไว้ด้วยเสียงเพลง
受けとってこの想い
uketotte kono omoi
รับไว้ทีสิ ความรู้สึกนี้น่ะ
ありがとうって声届けたくて
arigatou tte koe todoketakute
ฉันอยากจะส่งเสียงออกไปว่าขอบคุณ
弾いてるつもり このメロディー
hiiteru tsumori kono merodii
ฉันจึงตั้งใจจะบรรเลงท่วงทำนองนี้
なんて大げさに聞こえるかな でも本当よ
nante oogesa ni kikoeru kana demo hontou yo
จะฟังดูยิ่งใหญ่เกินไปมั้ยนะ แต่ว่าที่จริงแล้วน่ะ
忘れないでね
wasurenaide ne
อย่าได้ลืมมันไปเลยนะ
出会えて嬉しくて…本当なの忘れないでね
deaete ureshikute...hontou nano wasurenaide ne
ฉันดีใจเหลือเกินที่ได้พบกับเธอ… ฉันพูดจริงนะ อย่าได้ลืมมันไปเลยนะ
______________________________________________
สวัสดีคุณผู้อ่านครับ ที่จริงแล้ววันนี้กะว่าจะลงแค่เพลงเดียว แต่พอดีวันนี้เมื่อปีที่แล้วเป็นวันที่จัดไลฟ์ครั้งแรกของ Aqours หรือ ‘Aqours First Love Live! ~Step! ZERO to ONE~’
ในวันนั้นผมประทับใจเพลง Omoi yo Hitotsu ni Nare ตรงที่ริเคียโกะขึ้นไปดีดเปียโนเองคนเดียวมากเลย ซึ่งเหมือนกับที่ริโกะเล่นเปียโนในตอนที่ 11 ของซีซั่นแรก
ซึ่งผมรู้สึกว่าเพลงนี้สามารถถ่ายทอดเรื่องราวตรงส่วนนี้ออกมาได้ดี แล้วก็รู้สึกชอบเพลงนี้มากตั้งแต่ฟังตัวอย่างครั้งแรก ก็เลยเลือกเพลงนี้มาแปลในวันนี้
ส่วนพวกศัพท์ทางดนตรีบอกเลยว่า ไม่มีความรู้ด้านนี้เลย 555 แต่ก็ไปหาข้อมูลมาบ้าง เลยทับศัพท์ไปก่อนแล้วมาอธิบายข้างล่าง
คอนแชร์โต (Concerto) เป็นบทประพันธ์สำหรับการเล่นเดี่ยวเครื่องดนตรี (solo) เป็นหลัก แต่สำหรับในเพลงนี้น่าจะหมายถึงบทเพลงสำหรับการเล่นเปียโน
อาร์เพจจิโอ (Arpeggio) เป็นการกระจายคอร์ดแบบหนึ่ง ที่จะเล่นโน้ตที่ประกอบขึ้นเป็นคอร์ดตามลำดับ เข้าใจว่าน่าจะเป็นการเล่นแบบหนึ่งเลยใช้คำว่าบรรเลง
สำหรับข้อมูลผมก็นำมาจากเว็บ e-learning แล้วก็วิกิพีเดีย แล้วมาลองตีความตามที่เข้าใจดู
สุดท้ายนี้ผมก็หวังว่าจะได้เห็นริเคียโกะเล่นเปียโนอีกครั้งในไลฟ์ครั้งที่ 3
หากมีอะไรผิดพลาดหรือไม่ถูกใจ ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
แล้วพบกันใหม่ผลงานถัดไป ขอบคุณที่แวะเวียนกันเข้ามาอ่านครับ :)