วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2565

Crescendo Yu・Ra / Tang Keke (CV : Liyuu) & Hazuki Ren (CV : Aoyama Nagisa)



クレッシェンドゆ・ら

唐 可可 (CV : Liyuu) & 葉月 恋 (CV : 青山なぎさ)




ゆ・ら!明日は

yu・ra! ashita wa

หวั่น ไหว! วันพรุ่งนี้น่ะ

もっと!気になる

motto! ki ni naru

เริ่มเป็นกังวล! มากขึ้นแล้วสิ




Shiny day 出会えた日から

Shiny day deatta hi kara

Shiny day ตั้งแต่วันที่ได้พบกัน

キミのことばかり見てる

kimi no koto bakari miteru

ฉันก็เอาแต่เฝ้ามองเธอ

笑顔もすね方も全然違うね ふたり

egao mo sune kata mo zenzen chigau ne futari

จะการยิ้มหรือการงอน เราสองคนนั้นก็ดูแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง




うまく話せなくてまた

umaku hanasenakute mata

ฉันพูดไม่เก่ง แถมยัง

途中で黙りこむの

tochuu de damarikomu no

จู่ ๆ ก็เเงียบไประหว่างพูดอีก

気が合わないって言われても

ki ga awanai tte iwarete mo

แม้จะถูกบอกมาว่าเข้ากันไม่ได้

別にね(別にね)いいけど(ほんとに?)

betsu ni ne (betsu ni ne) ii kedo (honto ni?)

ฉันก็ไม่สน (ฉันก็ไม่สน) ไม่เป็นไร (จรึงรึเปล่า?)

ううん、No No イヤかも

uun, No No iya kamo

อืมม, No No ฉันคงไม่โอเค




ねえ

nee

นี่

Heartゆらゆら どうして

Heart yurayura doushite

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  ทำไมกันนะ

Heartゆらゆら 揺れるの

Heart yurayura yureru no

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  ถึงได้ส่ายไปมา

もっと深く知りたいの

motto fukaku shiritai no

ฉันอยากจะรู้ให้ลึกกว่านี้

違うよ 気のせいだって

chigau yo ki no sei datte

ไม่ใช่หรอก คงคิดไปเองแหละ

でも

demo

แต่ว่า

Heartゆらゆら かすかに

Heart yurayura kasuka ni

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  มีบางอย่างมาซ้อนทับ

Heartゆらゆら 重なる

Heart yurayura kasanaru

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  ใจของฉันอย่างเบาบาง

瞳が(クレッシェンド)告げてる

hitomi ga (kuresshendo) tsugeteru

แววตาของฉัน (Crescendo) มันฟ้องออกมา

友達とか越えちゃって

tomodachi toka koechatte

ความเป็นเพื่อนอะไรนั่น ฉันจะก้าวข้ามไป

特別になってく・・・かもね

tokubetsu ni natteku… kamo ne

และเป็นคนพิเศษของเธอ… บางทีนะ




ゆ・ら!明日は

yu・ra! ashita wa

หวั่น ไหว! วันพรุ่งนี้น่ะ

もっと!気になる

motto! ki ni naru

เริ่มเป็นกังวล! มากขึ้นแล้วสิ




Rainy day 偶然会って

Rainy day guuzen atte

Rainy day เราพบกันโดยบังเอิญ

一緒に帰ったあの日

issho ni kaetta ano hi

และกลับบ้านด้วยกันในวันนั้น

雨音やさしくて 初めて素直になれたんだ

amaoto yasashikute hajimete sunao ni naretanda

เสียงของสายฝนช่างอ่อนโยน เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันสามารถซื่อตรงกับตัวเองได้




やっぱ似てない なにもかも

yappa nitenai nanimo kamo

กะแล้วว่าทุกอย่างของเราไม่คล้ายกันเลย

正反対だね なのに

seihantai da ne nano ni

กลับตรงกันข้ามเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่เป็นแบบนั้น

知れば知るほど惹かれるの

shireba shiru hodo hikareru no

แต่ยิ่งฉันรู้จักเธอ ก็ยิ่งถูกดึงดูดเข้าไปหา

変かな?(変だね)いいかな?(いいでしょ!)

hen kana? (hen da ne) ii kana? (ii desho!)

แปลกมั้ยนะ? (แปลกสินะ) จะเป็นไรมั้ยนะ? (ไม่เป็นไรหรอก!)

I can't stop it 教えて

I can't stop it oshiete

I can't stop it ช่วยบอกฉันทีสิ




ねえ

nee

นี่

Heartゆらゆら 気持ちは

Heart yurayura kimochi wa

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  ความรู้สึกเรา

Heartゆらゆら おなじね?

Heart yurayura onaji ne?

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  เหมือนกันสินะ?

気づいてる 振り向けば

kizuiteru furimukeba

พอรู้สึกตัว ฉันก็หันกลับไป

視線がぶつかること

shisen ga butsukaru koto

สายตาของเราเลยประสานกัน

もう

mou

โธ่

Heartゆらゆら ほんとは

Heart yurayura honto wa

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  ที่จริงแล้วน่ะ

Heartゆらゆら 待ってるよ

Heart yurayura matteru yo

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  ฉันรอเธออยู่

つながる(クレッシェンド)きっかけ

tsunagaru (kuresshendo) kikkake

โอกาสที่เรา (Crescendo) จะเชื่อมโยงถึงกัน

不思議な予感してるの

fushigi na yokan shiteru no

ฉันมีลางสังหรณ์แปลก ๆ ว่า

その時はもうすぐ・・・かもね

sono toki wa mou sugu… kamo ne

เวลานั้นจะมาถึงเร็ว ๆ นี้… บางทีนะ




キミを見つけるたびに

kimi wo mitsukeru tabi ni

ทุกครั้งที่ฉันพบเธอ

心が騒ぎだすの

kokoro ga sawagi dasu no

หัวใจก็ส่งเสียงดังออกมา

どんな意味があるんだろう

donna imi ga arun darou

ไม่ว่ามันจะมีความหมายแบบไหน

探してみたいの

sagashite mitai no

ฉันก็อยากจะลองค้นหาดู




ねえ

nee

Heartゆらゆら こんなに

Heart yurayura konna ni

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  หัวใจส่ายไปมา

Heartゆらゆら 揺れるの

Heart yurayura yureru no

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  มากขนาดนี้

もっと深く知りたいのは

motto fukaku shiritai no wa

ฉันอยากจะรู้ให้ลึกกว่านี้

気のせいなんかじゃないや

ki no sei nanka janai ya

ฉันไม่ได้คิดไปเองแน่

ほら

hora

ดูสิ

Heartゆらゆら かすかに

Heart yurayura kasuka ni

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  มีบางอย่างมาซ้อนทับ

Heartゆらゆら 重なる

Heart yurayura kasanaru

Heart หวั่นไหวหวั่นไหว  ใจของฉันอย่างเบาบาง

瞳が(クレッシェンド)告げてる

hitomi ga (kuresshendo) tsugeteru

แววตาของฉัน (Crescendo) มันฟ้องออกมา

友達とか越えちゃって

tomodachi toka koechatte

ความเป็นเพื่อนอะไรนั่น ฉันจะก้าวข้ามไป

特別になってく・・・かもね

tokubetsu ni natteku… kamo ne

และเป็นคนพิเศษของเธอ… บางทีนะ




ゆ・ら!明日は

yu・ra! ashita wa

หวั่น ไหว! วันพรุ่งนี้น่ะ

もっと!気になる

motto! ki ni naru

เริ่มเป็นกังวล! มากขึ้นแล้วสิ




きっと!明日は

kitto! ashita wa

รับรอง! วันพรุ่งนี้น่ะ

もっと!気になる

motto! ki ni naru

ต้องเป็นกังวล! มากขึ้นแน่เลย


วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565

passage / fripSide



passage / fripSide




冷たい夜空に思い出す

tsumetai yozora ni omoidasu

ฉันนึกถึงท้องฟ้ายามราตรีอันหนาวเหน็บ

始まりの時

hajimari no toki

ในช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้น

あの日からいつも 忘れることない

ano hi kara itsumo wasureru koto nai

ตั้งแต่วันนั้น ฉันก็ไม่เคยลืมเลย

強く刻んだ言葉

tsuyoku kizanda kotoba

ถ้อยคำที่ถูกจารึกลงอย่างเข้มแข็ง




重ねた月日とその絆

kasaneta tsukihi to sono kizuna

คืนวันซ้ำ ๆ และสายสัมพันธ์นั้น

温かな夢

atataka na yume

ความฝันอันอบอุ่น

何も壊れずに こんな毎日が

nani mo kowarezu ni konna mainichi ga

ทุก ๆ วันที่ไม่มีสิ่งใดพังทลายลง

ずっと続く気がしてた

zutto tsuzuku ki ga shiteta

ฉันเคยรู้สึกว่ามันจะดำเนินต่อไปแบบนั้น




想いは果てなく

omoi wa hate naku

ความรู้สึกของฉันไร้ขอบเขต

いくつもの景色を越えてきた

ikutsumo no keshiki koetekita

ฉันได้ข้ามผ่านทิวทัศน์มากมาย

君と辿り着くべきその場所まで

kimi to tadoritsukubeki sono basho made

ไปจนถึงสถานที่แห่งนั้นที่ควรจะไปถึงพร้อมกับเธอ

かけがえのない時間を刻んで

kakegae no nai jikan wo kizande

ฉันจารึกช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรมาแทนได้ไว้ในใจ




これほど遠く 歩いてきて

kore hodo tooku aruitekite

ฉันเดินมายาวไกลถึงเพียงนี้

今は君を近くに感じる

ima wa kimi wo chikaku ni kanjiru

ในตอนนี้ฉันรู้สึกว่าได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอ

ここから続く この道の終わりに

koko kara tsuzuku kono michi no owari ni

ที่ปลายทางของเส้นทางที่ทอดยาวไปจากตรงนั้น

輝きを探して

kagayaki wo sagashite

ฉันออกตามหาประกายแสง




降り積もる気持ち

furitsumoru kimochi

ความรู้สึกที่ตกลงมากองสุมกัน

言葉には出来ないままで

kotoba ni wa dekinai mama de

ขณะที่ยังไม่สามารถถ่ายทอดมันออกเป็นคำพูดได้

あの日からずっと 探していたんだ

ano hi kara zutto sagashiteitan da

ตั้งแต่วันนั้น ฉันก็ออกตามหาเรื่อยมา

この想いの居場所を

kono omoi no ibasho wo

สถานที่สำหรับความรู้สึกเหล่านี้น่ะ




重ねた月日に過ぎ去った

kasaneta tsuki hi ni sugisatta

คืนวันซ้ำ ๆ ผ่านเลยไป

想いや夢を

omoi ya yume wo

ความรู้สึก และความฝัน

笑顔の数だけ 形にしたくて

egao no kazu dake katachi ni shitakute

ฉันอยากทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างมากเท่ากับจำนวนของรอยยิ้ม

理想を追い続けてた

risou wo oitsuzuketeta

ฉันได้ไล่ตามอุดมคตินั้นเรื่อยมา




まっすぐ見つめる

massugu mitsumeru

ฉันจ้องมองตรงไปข้างหน้า

君の瞳に輝く未来(あした)

kimi no hitomi ni kagayaku ashita

อนาคตส่องประกายอยู่ในดวงตาของเธอ

やがて辿り着くべきその場所まで

yagate tadoritsukubeki sono basho made

ในที่สุดฉันก็ไปถึงสถานที่แห่งนั้นที่ควรจะไปถึง

繋いだこの手を離さないから

tsunaida kono te wo hanasanai kara

มือข้างนี้ที่เรากุมกันไว้ ฉันจะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด




こんなにもいま 感じている

konna ni mo ima kanjiteiru

ในตอนนี้ ฉันรู้สึกถึงได้มากขนาดนี้

信じ合える気持ちの強さを

shinjiaeru kimochi no tsuyosa wo

ความเข้มแข็งของความรู้สึกที่สามารถเชื่อในกันและกันได้น่ะ

まだ歩けるよ 新しい季節に

mada arukeru yo atarashii kisetsu ni

ฉันยังคงก้าวเดินต่อไปได้ ฉันโอบกอดความกล้า

向かう勇気抱いて

mukau yuuki daite

ที่จะเผชิญกับฤดูกาลใหม่ไว้




想いは果てなく

omoi wa hate naku

ความรู้สึกของฉันไร้ขอบเขต

いくつもの景色を越えてきた

ikutsumo no keshiki koetekita

ฉันได้ข้ามผ่านทิวทัศน์มากมาย

君と辿り着くべきその場所まで

kimi to tadoritsukubeki sono basho made

ไปจนถึงสถานที่แห่งนั้นที่ควรจะไปถึงพร้อมกับเธอ

かけがえのない時間を刻んで

kakegae no nai jikan wo kizande

ฉันจารึกช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรมาแทนได้ไว้ในใจ




これほど遠く 歩いてきて

kore hodo tooku aruitekite

ฉันเดินมายาวไกลถึงเพียงนี้

今は君を近くに感じる

ima wa kimi wo chikaku ni kanjiru

ในตอนนี้ฉันรู้สึกว่าได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอ

ここから続く この道の終わりに

koko kara tsuzuku kono michi no owari ni

ที่ปลายทางของเส้นทางที่ทอดยาวไปจากตรงนั้น

輝きを探して

kagayaki wo sagashite

ฉันออกตามหาประกายแสง




こんなにもいま 感じている

konna ni mo ima kanjiteiru

ในตอนนี้ ฉันรู้สึกถึงได้มากขนาดนี้

信じ合える気持ちの強さを

shinjiaeru kimochi no tsuyosa wo

ความเข้มแข็งของความรู้สึกที่สามารถเชื่อในกันและกันได้น่ะ

まだ歩けるよ 新しい季節に

mada arukeru yo atarashii kisetsu ni

ฉันยังคงก้าวเดินต่อไปได้ ฉันโอบกอดความกล้า

向かう勇気抱いて

mukau yuuki daite

ที่จะเผชิญกับฤดูกาลใหม่ไว้




これほど遠く 歩いてきて

kore hodo tooku aruitekite

ฉันเดินมายาวไกลถึงเพียงนี้

今は君を近くに感じる

ima wa kimi wo chikaku ni kanjiru

ในตอนนี้ฉันรู้สึกว่าได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอ

ここから続く この道の終わりに

koko kara tsuzuku kono michi no owari ni

ที่ปลายทางของเส้นทางที่ทอดยาวไปจากตรงนั้น

輝きを探して

kagayaki wo sagashite

ฉันออกตามหาประกายแสง





สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่าน หลายคนน่าจะทราบกันแล้วว่าเมื่อปีที่แล้ว คุณนันโจ โยชิโนะ นักร้องนำวง fripSide ได้ประกาศขอจบการศึกษาจากวง

พอได้ทราบข่าวก็รู้สึกใจหายเหมือนกันครับ แต่ผมก็เคารพในการตัดสินใจของคุณนันโจ แล้วก็จะเป็นกำลังใจสนับสนุนต่อไปครับ


เพลงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงจากซิงเกิ้ลสุดท้าย เนื้อหาของเพลงพูดถึงเส้นทางที่เดินทางมาอย่างยาวนาน ตอนที่แปลก็รู้สึกได้ว่านี่คือเพลงที่ใช้สื่อถึงเรื่องราวของคุณนันโจ ในฐานะนักร้องนำวง fripSide


บอกตามตรงว่า เพลงนี้จริง ๆ แปลเสร็จแล้วตั้งแต่ช่วงที่เพลงออกใหม่ ๆ แต่ว่านี่เป็นหนึ่งในเพลงจากซิงเกิ้ลสุดท้ายของศิลปินวงโปรดทั้งที ผมก็เลยอยากเขียนอะไรทิ้งท้ายไว้หน่อย แต่ไม่รู้จะเขียนออกมายังไงดี พยายามไม่เขียนให้มันยาวไป แต่ก็ไม่รู้ว่าพอเขียนสั้น ๆ แล้วมันจะรู้เรื่องรึเปล่า ก็เลยดองไว้ ไม่ได้ลงสักที (55) มาเขียนเสร็จจริง ๆ ก็หลังจากที่อัลบั้มสุดท้าย infinite synthesis 6 ออกวางจำหน่ายแล้ว (เดือนกว่า ๆ เลย 55)


สุดท้ายนี้ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรือไม่ถูกใจ ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่านครับ :)