whisper of winter / fripSide
硝子越しに 夜空を 見上げていた
garasu goshi ni yozora wo miageteita
ฉันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรีผ่านกระจก
冬の妖精たちが 舞い降りてくる時間
fuyuu no yousei tachi ga maiorite kuru jikan
ยามที่เหล่าภูตแห่งหน้าหนาวโบยบินลงมา
独りきりで過ごした 寂しさとか
hitori kiri de sugoshita sabishisa to ka
มันคือความเหงาที่ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังสินะ
忘れさせて お願い 翼をください
wasuresasete onegai tsubasa wo kudasai
ให้ฉันลืมมันไปเถอะ ได้โปรดช่วยมอบปีกให้ฉันที
夢を見続けて 明日は必ず来ると信じてた
ัyume wo mitsuzukete ashita wa kanarazu kuru to shinjiteta
ฉันเฝ้ามองความฝันเรื่อยมา ดั่งเช่นที่เคยเชื่อว่าวันพรุ่งนี้จะต้องมาถึง
今でさえ believe in 願う
ima de sae believe in negau
แม้แต่ตอนนี้ ฉันก็อธิษฐานที่จะเชื่อ
目の前に浮かぶ 疑う事を知らない
me no mae ni ukabu utagau koto wo shiranai
ฉันไม่รู้จักความสงสัยที่ลอยอยู่ตรงหน้าเลย
無垢だった二人 寄り添い 消えてく
muku datta futari yorisoi kieteku
ไร้เดียงสาจังเลยนะ เราสองคนแนบชิดกัน แล้วเลือนหายไป
雪の降る この街にも温かい光が差し
yuki no furu kono machi ni mo atatakai hikari ga sashi
แสงอบอุ่นสาดส่องลงมายังเมืองนี้ที่หิมะโปรยปราย
折れた羽を癒してる 傷ついた心の奥
oreta hane wo iyashiteru kizutsuita kokoro no oku
ช่วยเยียวยาปีกที่หักลงข้างในหัวใจที่เต็มไปด้วยบาดแผลของฉัน
足音が聞こえてくる 明日への扉叩いて
ashioto ga kikoete kuru asu e no tobira tataite
ฉันได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังเข้ามา ฉันจึงผลักประตูสู่วันพรุ่งนี้ออก
目の前を道を進む 季節が巡る 時の中で
me no mae wo michi wo susumu kisetsu ga megeru toki no naka de
แล้วก้าวเดินไปบนเส้นทางข้างหน้า ท่ามกลางช่วงเวลาที่ฤดูกาลหมุนเวียนไป
別れてから 今日まで 夜を重ね
wakarete kara kyou made yoru wo kasane
นับจากที่เราแยกจากกันจนถึงวันนี้ ได้ผ่านไปหลายคืน
冬の妖精達が 輝き出す瞬間
fuyu no yosei tachi ga kagayaki dasu shunkan
ช่วงเวลาที่เหล่าภูตแห่งหน้าหนาวส่องประกายออกมา
独りきりで過ごした 切なさとか
hitori kiri de sukoshita setsunasa to ka
มันคือความเศร้าที่ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังสินะ
どこか遠く 彼方へ 翼をください
dokoka tooku kanata e tsubasa wo kudasai
ได้โปรดช่วยมอบปีกให้ฉัน บินไปในที่ที่ไกลแสนไกล
あなたを追い掛け 笑い合ったあの時は
anata wo oikake waraiatta ano toki wa
ฉันไล่ตามเธอไป ในช่วงเวลาที่เราหัวเราะให้กัน
信じてた 今でさえ believe in 願う
shinjiteta ima de sae believe in negau
ฉันเคยเชื่อมั่น แม้แต่ตอนนี้ ฉันก็อธิษฐานที่จะเชื่อ
儚い現実 疑うことを知らない
hakanai genjitsu utagau koto wo shiranai
ฉันไม่รู้จักความสงสัยในความจริงอันเปราะบางเลย
無垢だった二人 離れて 消えてく
muku datta futari hanarete kieteku
ไร้เดียงสาจังเลยนะ เราสองแยกห่างจากกัน แล้วเลือนหายไป
雪の降るこの街にも 温かい光が差し
yuki no furu kono machi ni mo atatakai hikari ga sashi
แสงอบอุ่นสาดส่องลงมายังเมืองนี้ที่หิมะโปรยปราย
折れた羽を癒してる 傷ついた心の奥
oreta hane wo iyashiteru kizutsuita kokoro no oku
ช่วยเยียวยาปีกที่หักลงข้างในหัวใจที่เต็มไปด้วยบาดแผลของฉัน
足音が聞こえてくる 明日への扉叩いて
ashioto ga kikoete kuru asu e no tobira tataite
ฉันได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังเข้ามา ฉันจึงผลักประตูสู่วันพรุ่งนี้ออก
目の前を道を進む 季節が巡る 時の中で
me no mae wo michi wo susumu kisetsu ga megeru toki no naka de
แล้วก้าวเดินไปบนเส้นทางข้างหน้า ท่ามกลางช่วงเวลาที่ฤดูกาลหมุนเวียนไป
巡る想い あなただけ 笑顔が今もまぶしい
meguru omoi anata dake egao ga ima mo mabushii
ความรู้สึกของฉันวนเวียนอยู่รอบเธอเท่านั้น
รอยยิ้มของเธอตอนนี้ช่างเจิดจ้าเหลือเกิน
本当はわかっている だから前に進んでく
hontou wa wakatteiru dakara mae ni susundeku
ฉันเข้าใจจริง ๆ นะ เพราะฉะนั้น ฉันจึงก้าวเดินไปข้างหน้า
雪の降るこの街にも 温かい光が差し
yuki no furu kono machi ni mo atatakai hikari ga sashi
แสงอบอุ่นสาดส่องลงมายังเมืองนี้ที่หิมะโปรยปราย
折れた羽を癒してる 傷ついた心の奥
oreta hane wo iyashiteru kizutsuita kokoro no oku
ช่วยเยียวยาปีกที่หักลงข้างในหัวใจที่เต็มไปด้วยบาดแผลของฉัน
足音が聞こえてくる 明日への扉叩いて
ashioto ga kikoete kuru asu e no tobira tataite
ฉันได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังเข้ามา ฉันจึงผลักประตูสู่วันพรุ่งนี้ออก
目の前を道を進む 季節が巡る 時の中で
me no mae wo michi wo susumu kisetsu ga megeru toki no naka de
แล้วก้าวเดินไปบนเส้นทางข้างหน้า ท่ามกลางช่วงเวลาที่ฤดูกาลหมุนเวียนไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น