วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Tabi no Tochuu / Minase Inori



旅の途中 / 水瀬いのり



ここは歩き始めた旅の途中 まだまだ先は長いけど
koko wa aruki hajimeta tabi no tochuu mada mada saki wa nagai kedo
ระหว่างการเดินทางที่ฉันเริ่มต้นก้าวเดินจากตรงนี้
ยังหรอก ยังหรอก หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล
そこに辿り着いたなら 最後に笑っていれるかな
soko ni tadoritsuita nara saigo ni waratte ireru ka na
ท้ายที่สุดถ้าไปถึงที่นั่นได้ ฉันจะยิ้มออกมาได้รึเปล่านะ


幼い私が夢に見てた 理想とは少しだけ 違う自分になったよ
osanai watashi ga yume ni miteta risou to wa sukoshi dake
chigau jibun ni natta yo
ถึงตัวฉันที่เป็นอยู่มันออกจะต่างไปจากตัวเองในอุดมคติ
ที่เคยฝันไว้ในตอนเด็กอยู่นิดหน่อย
みんなそれぞれの道を歩く 胸を張っていつでも また会えるように
minna sorezore no michi wo aruku mune wo hatte itsumo mata aeru you ni
ก็ทุกคนน่ะต่างก็ยืดอกภูมิใจที่จะก้าวไปบนเส้นทางของตัวเอง
เพื่อที่จะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง


何度も不安になるし たまに迷うけど
nandomo fuan ni narushi tama ni mayou kedo
มีหลายครั้งที่ฉันต้องกังวล และเป็นบางครั้งที่ฉันต้องรู้สึกสับสน
それぞれの道の 正しさなんて誰も知らない
sorezore no michi no tadachisa nante dare mo shiranai
ก็ความถูกต้องในเส้นทางของแต่ละคนน่ะ ไม่มีใครรู้หรอก


ここは歩き始めた旅の途中 自分で選んだ道だよ
koko wa aruki hajimeta tabi no tochuu jibun de eranda michi da yo
ระหว่างการเดินทางที่ฉันเริ่มต้นก้าวเดินจากตรงนี้
บนเส้นทางที่ฉันเลือกด้วยตัวฉันเอง
そこに辿り着くまでに 何度転ぶんだろう
soko ni tadori tsuku made ni nando korobun darou
กว่าจะไปถึงที่นั่นได้ ฉันต้องล้มลงไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ずっと歩き続けた旅の途中 まだまだ先は長いけど
zutto aruki tsuzuketa tabi no tochuu mada mada saki wa nagai kedo
ระหว่างการเดินทางที่ฉันยังคงก้าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ
ยังหรอก ยังหรอก หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล
そこに辿り着いたなら 最後に笑っていれるかな
soko ni tadoritsuita nara saigo ni waratte ireru ka na
ท้ายที่สุดถ้าไปถึงที่นั่นได้ ฉันจะยิ้มออกมาได้รึเปล่านะ


一つずつ選んできた道は 遠回りしてみたり 立ち止まりもしたけど
hitotsu zutsu erande kita michi wa toomawari shite mitari
tachidomari mo shita kedo
บนเส้นทางที่ฉันเลือกแต่ละเส้น บางเส้นทางก็ต้องเดินอ้อมไป
บางเส้นทางฉันก็ต้องหยุดเดินต่อ
歩き出した日に胸に秘めた その気持ちは今でも 変わらないように
arukidashita hi ni mune ni himeta sono kimochi wa ima demo kawaranai you ni
แต่ถึงอย่างนั้น ความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ในใจตั้งแต่วันที่เริ่มก้าวไป
จนถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง


最初に踏み出す一歩が 怖く思えても
saisho ni fumidasu ippo ga kowaku omoete mo
ฉันคิดว่าการเริ่มต้นก้าวแรกมันน่ากลัว
その先がどんな景色かなんて 誰も知らない
sonosaki ga donna keshiki ka nante dare mo shiranai
ก็จากนี้ไปจะเจอกับทิวทัศน์แบบไหน ไม่มีใครรู้หรอก


ここは歩き始めた夢の途中 どんなに先が長くても
koko wa aruki hajimeta yume no tochuu donna ni saki ga nagakute mo
ท่ามกลางความฝันที่ฉันเริ่มต้นก้าวเดินจากตรงนี้
ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะยาวไกลอีกแค่ไหน
一度歩き出したなら もう戻れないから
ichido arukidashita nara mou modorenai kara
ถ้าได้ก้าวออกมาก้าวนึงแล้ว ก็หันหลังกลับไปไม่ได้แล้วล่ะ
やっと叶い始めた夢の途中 ゴールはまだ見えないけど
yatto kanai hajimeta yume no tochuu gooru wa mada mienai kedo
ท่ามกลางความฝันที่ในที่สุดก็เริ่มจะเป็นจริง
แม้ว่าจะยังคงมองไม่เห็นปลายทาง
そこに辿り着いたなら 前より輝いてるかな
soko ni tadoritsuita nara mae yori kagayaiteru kana
ถ้าไปถึงที่นั่นได้ ฉันจะเปล่งประกายขึ้นรึเปล่านะ


笑われたりしたっていいさ 信じられるなら
warawaretari shitatte ii sa shinjirareru nara
ถ้าเชื่อมั่นแล้วล่ะก็ จะยิ้มออกมาก็ได้นะ
いつも光目指し進むよ この手伸ばして
itsumo hikari mezashi susumu yo kono te nobashite
ฉันจะมุ่งไปยังปลายทางที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง
แล้วคว้ามันมาด้วยมือข้างนี้


君が歩き続ける旅の途中 どんなに先が暗くても
kimi ga aruki tsuzukeru tabi no tochuu donna ni saki ga kurakute mo
ระหว่างการเดินทางที่เธอกำลังก้าวเดินไป
ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะมืดมิดเพียงใด
そこに続く道だけは ちゃんと見つけられる
soko ni tsuzuku michi dake wa chanto mitsukerareru
เส้นทางที่พาไปสู่ที่นั่น ฉันจะหามันให้เจอให้ได้


ここは歩き始めた旅の途中 自分が信じた道だよ
koko wa aruki hajimeta tabi no tochuu jibun ga shinjita michi da yo
ระหว่างการเดินทางที่ฉันเริ่มต้นก้าวเดินจากตรงนี้
บนเส้นทางที่ฉันเชื่อมั่น
そこに辿り着くまでに 何度ぶつかっても
soko ni tadori tsuku made ni nando butsukatte mo
กว่าจะไปถึงที่นั่นได้ ฉันต้องฟันฝ่าอะไรมามากมาย
ずっと歩き続けた旅の途中 歩き出せるよ何度でも
zutto aruki tsuzuketa tabi no tochuu aruki daseru yo nandodemo
ระหว่างการเดินทางที่ฉันยังคงก้าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ
ไม่ว่าจะอีกกี่ก้าว ฉันก็จะขอก้าวต่อไป
そこに辿り着いたなら 最後に笑っていれるから
soko ni tadoritsuita nara saigo ni waratte ireru kara
เพราะท้ายที่สุดถ้าไปถึงที่นั่นได้ ฉันต้องยิ้มออกมาได้แน่


วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Niji no Oto / Aoi Eir



/

陽だまりの中 心のキャンバスに
hidamari no naka kokoro no kyanbasu ni
ภายใต้แสงแดดอันอบอุ่น  เธอได้วาดเศษเสี้ยวแห่งความหวัง
君が描く希望のかけら
kimi ga egaku kibou no kakera
บนผืนผ้าใบในใจของฉัน
手にしたパレットは時間を積み重ねて
te ni shita paretto wa jikan wo tsumi kasanete
จานสีในมือของเธอได้รวบรวมช่วงเวลาต่าง ๆ เอาไว้
繋がる色が咲いた思い出
tsunagaru iro ga saita omoide
เป็นดั่งสีสันที่เชื่อมถึงกัน ที่ผลิบานเป็นความทรงจำ


目と目が合えばこぼれる微笑み
me to mo ga aeba koboreru hohoemu
พอตาของเราเริ่มจ้องมองกัน รอยยิ้มก็พลันเอ่อล้นออกมา
緩やかに時は流れ幸せを彩ってゆく
yuruyaka ni toki wa nagare shiawase wo irodotte yuku
เวลาได้ค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ และความสุขก็ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสัน


君と手を繋いで歩む世界ならきっと
kimi to te wo tsunai de ayumu sekai nara kitto
ถ้าได้เดินจับมือเธอไปบนโลกใบนี้แล้วล่ะก็
どんな明日も明るくて
donna asu mo akarukute
ไม่ว่าจะพบกับวันพรุ่งนี้แบบไหน มันต้องเป็นวันที่สดใสแน่นอน
新しい季節を重ねてく この先も二人で
atarashii kisetsu wo kasaneteku konosaki mo futari de
จากนี้ไปเราจะข้ามผ่านฤดูกาลใหม่ ๆ ไปด้วยกัน
色とりどりに芽吹き鮮やかな景色は
irotoridori mebuki azayaka na keshiki wa
สีสันทั้งหลายได้แตกยอดออก เป็นทิวทัศน์
虹色に輝く
niji iro ni kagayuku
สีรุ้งที่เปล่งประกาย


聞きなれた声は心にそっと触れて
kikinarete koe wa kokoro ni sutto furete
เสียงที่คุ้นเคยที่ฉันได้ยิน ค่อย ๆ สัมผัสลงในใจของฉัน
響けばまるで優しい旋律
hibikeba marude yasashii senritsu
แล้วก้องกังวานราวกับท่วงทำนองอันแสนอ่อนโยน


小さな風が草木を揺らして
chiisa na kaze ga kusaki wo yurashite
สายลมเล็ก ๆ ที่ทำให้ต้นไม้เล็ก ๆ พลิ้วไหว
囁き合ったならば楽しげに音が跳ねる
sasayaki atta naraba tanoshige ni oto ga haneru
ถ้าหากมันเป็นเสียงกระซิบแล้วล่ะก็
มันคงเป็นเสียงที่กระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสนาน


おだやかな未来へ同じペースでいつまでも
odayaka na mirai e onaji peesu de itsumademo
มุ่งหน้าไปยังอนาคตอันเงียบสงบ ด้วยก้าวเดิม ๆ
変わらずずっと歩いて行こう
kawarazu zutto aruite ikou
ที่ไม่เปลี่ยนไปด้วยกันเถอะ
その声に笑顔に照らされていつまでも寄り添って
sono koe ni egao ni terasarete itsumademo yorisotte
มีทั้งเสียงนี้และรอยยิ้มนี้คอยส่องสว่างอยู่เคียงข้างฉันตลอดมา
聞こえてきた音は色彩のメロディー
kikoetekita oto wa shikisai no merodii
เสียงที่ได้ยินนี้คือท่วงทำนองแห่งสีสัน
どこまでも響いて…
dokomade mo hibiite…
ไม่ว่าจะที่ไหนมันก็จะก้องกังวาน...


君と出会えて君と触れ合って
kimi to deaete kimi to fureatte
จะเป็นตอนที่พบกับเธอ หรือตอนที่ได้สัมผัสใกล้ชิดเธอ
同じタイミングで笑い合って
onaji taimingu de waraiatte
ก็เป็นเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่พวกเราได้หัวเราะไปด้วยกัน
似てきた仕草やうつった口癖も
nitekita shigusa ya utsutta kuchiguse mo
ทั้งท่าทางที่คล้ายคลึงกันที่แสดงออกมาและ
วิธีการพูดที่สะท้อนออกมาให้เห็นของเราสองคน
一緒に生きる誓いになるから
issho ni ikiru chikai ni naru kara
จะกลายเป็นคำมั่นสัญญาว่าเราจะได้อยู่กัน


君と手を繋いで歩む世界ならきっと
kimi to te wo tsunai de ayumu sekai nara kitto
ถ้าได้เดินจับมือเธอไปบนโลกใบนี้แล้วล่ะก็
どんな明日も明るくて
donna asu mo akarukute
ไม่ว่าจะพบกับวันพรุ่งนี้แบบไหน มันต้องเป็นวันที่สดใสแน่นอน
新しい季節を重ねてく この先も二人で
atarashii kisetsu wo kasaneteku konosaki mo futari de
จากนี้ไปก็มาข้ามผ่านฤดูกาลใหม่ ๆ ไปด้วยกันนะ
色とりどりに芽吹き鮮やかな景色は
irotoridori mebuki azayaka na keshiki wa
สีสันทั้งหลายได้แตกยอดออก เป็นทิวทัศน์
虹色に輝く
niji iro ni kagayuku
สีรุ้งที่เปล่งประกาย


君がくれたものは温かく優しい 変わらない
kimi ga kureta mono wa atatakaku yasashii kawaranai
สิ่งที่เธอมอบให้ฉันมา มันช่างอบอุ่นและอ่อนโยนไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ありがとう…
arigatou...
ขอบคุณมากนะ…

วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Ring a Bell / LiSA


リングアベル / LiSA





あの日 こっそり 僕に 教えてくれたね
ano hi kossori boku ni oshietekureta ne
ในวันนั้นที่เธอแอบบอกกับฉัน
「幸せの魔法だよ リングアベル リングアベル」
“shiawase no mahou da yo ringu a beru ringu a beru”
“นี่คือเวทมนตร์แห่งความสุขยังไงล่ะ Ring a Bell Ring a Bell”


ドレミ ドレミ 優しいピアノが
doremi doremi yasashii piano ga
โดเรมี โดเรมี ฉันได้ยิน...
ファソラ ファソラ 聞こえてくるんだ
fasora fasora kikoete kuru n da
ฟาซอลลา ฟาซอลลา ...เสียงอันอ่อนโยนจากเปียโน
いつも 嬉しいことがあった時は 大また10歩 キミの家まで
itsumo ureshii koto ga atta toki wa oomata juuppo kimi no ie made
ทุก ๆ ครั้ง เวลามีเรื่องน่าดีใจ ฉันจะก้าวยาว ๆ 10 ก้าวไปจนถึงบ้านของเธอ


ありがとう!ずっと 傍にいてくれたね
arigatou! zutto soba ni itekureta ne
ขอบคุณนะ! ที่คอยอยู่เคียงข้างฉันตลอดมา
すりむいた 僕の膝に かけてくれた おまじない
surimuita boku no hiza ni kakete kureta omajinai
เครื่องรางที่เธอหมอบให้กับเข่าของฉันที่ถลอกเป็นแผล
少しだけ 少しだけ つよくなれたけど
sukoshi dake sukoshi dake tsuyoku nareta kedo
แม้จะเพียงนิดเดียว แม้จะเพียงนิดเดียว แต่ฉันรู้สึกเข้มแข็งขึ้นมา
今は 寂しいんだよ リングアベル リングアベル
ima wa sabishii n da yo ringu a beru ringu a beru
ตอนนี้ฉันเหงาเหลือเกิน Ring a Bell Ring a Bell


川に並ぶ 岩に飛び乗ってさ ひらりと キミは 向こう岸へいくんだ
kawa ni narabu iwa ni tobinotte sa hirari to kimi wa mukougishi e ikun da
ณ ลำธารที่ทอดยาวไป ฉันกับเธอค่อย ๆ กระโดดข้ามก้อนหินไปยังอีกฝั่ง
僕のゆうき 最終兵器は キミがくれた ぶどうのグミ
boku no yuuki saishuu heiki wa kimi ga kureta budou no gumi
อาวุธสุดท้ายสำหรับความกล้าของฉัน(ที่จะกระโดดข้าม)คือหมากฝรั่งรสองุ่นที่เธอให้มา


いつも先を走る キミの背中に
itsumo saki wo hashiru kimi no senaka ni
เธอมักจะวิ่งนำหน้าฉันไปเสมอ
追いつきたくて パパと練習した自転車
oitsukitakute papa to renshuu shita jitensha
ฉันจะไล่ตามเธอไปด้วยจักรยานที่ฉันหัดขี่กับพ่อ
また一つ また一つ キズは増えたけど
mata hitotsu mata hitotsu kizu wa fueta kedo
ยังห่างกันอีกนิดเดียว ยังห่างกันอีกนิดเดียว ถึงจะได้แผลเพิ่มขึ้นมา
僕は 泣いたりしない リングアベル リングアベル
boku wa naitari shinai ringu a beru ringu a beru
ฉันก็จะไม่ร้องไห้เด็ดขาด Ring a Bell Ring a Bell


「幸せの魔法だよ リングアベル リングアベル」
“shiawase no mahou da yo ringu a beru ringu a beru”
“นี่คือเวทมนตร์แห่งความสุขยังไงล่ะ Ring a Bell Ring a Bell”


毎晩 窓の外を眺めながら 流れる星を待ってる
maiban mado no soto wo nagame nagara nagareru hoshi wo matteru
ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง และเฝ้ารอดาวตกอยู่ทุกคืน
おねがい ずっとずっと前から 決まっているんだ
onegai zutto zutto mae kara kimatte iru n da
ได้โปรดเถอะ ฉันตัดสินใจมานานมากแล้ว
早く大人に なれますように
hayaku otona ni nare masu you ni
ฉันอยากจะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เร็ว ๆ


あのね、僕のヒミツ 教えちゃおうかな
ano ne, boku no himitsu oshiechaou ka na
คือว่านะ ฉันจะบอกความลับของฉันให้ฟัง
本当の本当はね、ずっと一緒がいい
hontou no hontou wa ne, zutto ishho ga ii
จริง ๆ แล้ว ถ้าได้อยู่กับเธอตลอดไปก็คงดี


おめでとう 今日はすごくトクベツなんだよ
omedetou kyou wa sugoku tokubetsu nanda yo
ยินดีด้วยนะ สำหรับวันนี้ที่แสนพิเศษ
白いドレスが天使の羽に見えたんだ
shiroi doresu ga tenshi no hane ni mieta n da
ชุดเดรสสีขาวของเธอนั้นดูราวกับปีกของนางฟ้าเลยล่ะ
少しだけ 少しだけ 寂しいんだけど
sukoshi dake sukoshi dake sabishii n dakedo
ถึงจะเหงาไปบ้าง ถึงจะเหงาไปบ้าง แต่ว่านะ
次は キミに僕から リングアベル リングアベル
tsugi wa kimi ni boku kara ringu a beru ringu a beru
ครั้งหน้า ฉันจะพูดให้เธอฟังบ้าง Ring a Bell Ring a Bell
幸せの魔法 リングアベル リングアベル
shiawase no mahou da yo ringu a beru ringu a beru
เวทมนตร์แห่งความสุข Ring a Bell Ring a Bell



นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ  จากที่แปลมา (มีแถบ้างเล็กน้อย) ตรงท่อน


‘ จริง ๆ แล้ว ถ้าได้อยู่กับเธอตลอดไปก็คงดี
ยินดีด้วยนะ สำหรับวันนี้ที่แสนพิเศษ
ชุดเดรสสีขาวของเธอนั้นดูราวกับปีกของนางฟ้าเลยล่ะ
ถึงจะเหงาไปบ้าง ถึงจะเหงาไปบ้าง แต่ว่านะ ‘


ผมคิดว่า ตัวละครในเพลงได้รับกำลังใจและสิ่งต่าง ๆ มาจากเพื่อนของเขา แล้วเกิดแอบชอบเธอคนนั้นขึ้นมา แต่ในตอนจบ เธอได้แต่งงานกับคนอื่น (เดาจากคำว่าวันที่แสนพิเศษกับชุดเดรสสีขาว) แต่ตัวเขาแม้ว่าจะรู้สึกเหงาที่ไม่มีเธอก็ตาม ก็ยังคงแสดงความยินดีและมอบเวทมนตร์แห่งความสุขที่เธอเคยสอนในตอนเด็กให้เธอ


ถือว่าเป็นเพลงที่ให้อารมณ์เหงานิด ๆ (เหงาแบบแฮปปี้นะครับ 55)


หมดช่วงเวลามโนส่วนตัวแล้วครับ ต่อไปเป็นช่วงโปรโมทผลงานเก่า
วันที่ 18 เดือนนี้ก็เป็นวันที่หนังเรื่อง kimi to 100 kaime no koi หรือในชื่อไทย ย้อนรัก 100 ครั้ง ก็ยังเป็นเธอ ซึ่งผมจะไปดู แล้วก็พยายามกลับมาปรับแก้ความหมายให้มันเข้ากับเนื้อเรื่อง แล้วก็อาจจะเขียนทิ้งท้ายเพิ่มเติมด้วย ก็อยากจะให้ติดตามกันด้วย


แล้วก็่ช่วงเดือนพฤษภาฯ - สิ้นเดือนกรกฎาฯ ผม’อาจจะ’ไม่ได้ลงเพลงถี่เหมือนกับที่ผ่าน ๆ มา (ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ลงอะไรมากมายขนาดนั้นอยู่แล้ว 555) ก็ถ้าลองเทียบกับปีที่แล้ว ช่วง 3 เดือนนี้อาจจะลงน้อยกว่ามาก เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในช่วงสอบไฟนอล แล้วหลังจากนั้นก็เป็นช่วงฝึกงาน เวลาว่างก็คงมีน้อยลง แต่ก็พยายามจะเอามาลงกับการแปลเพลงให้ได้มากที่สุด (ไม่คิดจะเลิกง่าย ๆ หรอกนะ 555)


ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกันครับ ถ้าผิดพลาดหรือมีตรงไหนไม่ถูกใจต้องขอโทษด้วยครับ
พบกันใหม่ผลงานหน้า สวัสดีครับ :)