วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559

I to You / LUCKLIFE



アイトユウ / ラックライフ



出会って何年だっけ
deatte nannen da kke
เราเจอหน้ากันนานมากี่ปีแล้วนะ
初デートはどこに行ったっけ
hatsu deeto wa doko ni itta kke
เราไปเดทกันครั้งแรกที่ไหนนะ
覚えてないなんて言ったら君は
oboetenai nante ittara kimi wa
ถ้าบอกไปว่าจำไม่ได้ เธอคงจะ
ぎゅっとへの字に結んで
gyutto he no ji ni musunde
ทำหน้าบึ้ง ปากเป็นรูปตัว へ
口も聞いてくんなくなった
kuchi mo kiitekun nakunatta
แล้วไม่พูดอะไรออกมา
それ見て僕は笑う
sore mite boku wa warau
แต่พอได้เห็น ผมกลับหัวเราะออกมา


ああ何気ない事
aa nanigenai koto
อา เรื่องราวที่แสนจะธรรมดาของผม
隣で寝息を立てる君なんだ
tonari de neiki wo tateru kimi nanda
พอมีเธอมาคอยหลับเคียงข้าง
幸せは目に見えるモノだった
shiawase wa me ni mieru mono datta
ความสุขก็กลายเป็นสิ่งที่เห็นได้ด้วยตา


やる時はやる男なんだって
yaru toki wa yaru otoko nandatte
เวลาจะทำอะไรก็ทำ นี่แหละลูกผู้ชาย
頼りがいのある人だって
tayorigai no aru hito datte
และยังเป็นที่วางใจของคนอื่นอีกด้วย
君は僕を照らすように笑っていて
kimi wa boku wo terasu you ni waratteite
เธอจึงเป็นแสงสว่างที่ส่องมาที่ผมด้วยรอยยิ้ม
この先何年もが過ぎ去って
konosaki nannen mo ga sugisatte
และจากนี้ต่อไป ไม่ว่าจะผ่านไปหลายสิบปี
しわくちゃになった笑顔で
shiwakucha ni natta egao de
จนแก่และใบหน้าเหี่ยวย่นลง
顔見合わせ笑えるよに
kao miawase waraeru yo ni
พวกเราก็จะหันหน้ามายิ้มให้กันเหมือนเดิม


何回も言わせないでって
nankai mo iwasenaide tte
พวกเราไม่พูดกันมากี่ครั้งแล้ว
怒られてばっかりいるなあ
okorarete bakkari iru naa
เธอเอาแต่โกรธผมอยู่นั่นแหละ
こんなはずじゃなかったはずなのに
konna hazu janakatta hazu na noni
มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ แต่มันก็สมควรแล้ว
謝ってばかりだけど
ayamatte bakari dakedo
ผมเองก็ทำได้แต่ขอโทษ
ちゃんと想っているよ
chanto omotte iru yo
แต่พอมาลองคิดดูดี ๆ แล้ว
ダメなんだよ僕は君じゃないと
dame nanda yo boku wa kimi janai to
ผมเนี่ยไม่ได้เรื่องเลยนะ ก็ผมน่ะไม่ใช่เธอนี่นา


なんでもないようなケンカしたって
nandemonai you na kenka shitatte
แม้ว่าพวกเราทะเลาะกันราวกับว่ามันไม่มีอะไร
何回も仲直りして
nankai mo nakanaori shite
สุดท้ายก็กลับมาคืนดีกันครั้งแล้วครั้งเล่า
ごめんねとありがとうを繰り返して
gomen ne to arigatou wo kurikaeshite
พูดขอโทษและขอบคุณให้กันแและกันซ้ำไปซ้ามา
これからはずっと一緒だよって
korekara wa zutto issho dayo tte
จากนี้ต่อไปก็ช่วยอยู่ด้วยกันไปตลอดเลยนะ
口だけで言ってんじゃないよ
kuchi dake de itten janai yo
ผมไม่ได้คิดจะพูดอย่างเดียวหรอกนะ
ずっと二人で歩いて行こう
zutto futari de aruiteikou
แต่จะขอก้าวไปข้างหน้าด้วยกันกับเธอตลอดไป


僕が幸せにするんじゃなくて
boku ga shiawase ni surun janakute
แค่ตัวผมคนเเดียวคงมีความสุขไม่ได้หรอก
二人で幸せになろうな
futari de shiawase ni narou na
แต่ถ้าเป็นสองเราล่ะก็จะต้องมีความสุขได้แน่
どんな場面もどんな日々でさえも
donna bamen mo donna hibi de sae mo
ไม่ว่าจะวันไหน ไม่ว่าจะเมื่อไหร่
君となら怖くもないんだって
kimi to nara kowaku mo nai n datte
ถ้ามีเธออยู่ผมก็จะไม่กลัวอีกต่อไป
僕が側にいるよ
boku ga soba ni iru yo
ผมจะคอยอยู่เคียงข้างเธอเอง
今誓うよ
ima chikau yo
ขอให้สัญญาเลยล่ะ


なんでもないようなケンカしたって
nandemonai you na kenka shitatte
แม้ว่าพวกเราทะเลาะกันราวกับว่ามันไม่มีอะไร
何回も仲直りして
nankai mo nakanaori shite
สุดท้ายก็กลับมาคืนดีกันครั้งแล้วครั้งเล่า
ごめんねとありがとうを繰り返して
gomen ne to arigatou wo kurikaeshite
พูดขอโทษและขอบคุณให้กันแและกันซ้ำไปซ้ามา
これからはずっと一緒だよって
korekara wa zutto issho dayo tte
จากนี้ต่อไปก็ช่วยอยู่ด้วยกันไปตลอดเลยนะ
口だけで言ってんじゃないよ
kuchi dake de itten janai yo
ผมไม่ได้คิดจะพูดอย่างเดียวหรอกนะ
ずっと二人で歩いて行こう
zutto futari de aruiteikou
แต่จะขอก้าวไปข้างหน้าด้วยกันกับเธอตลอดไป


懐かしい風が吹くあの場所に
natsukashii kaze ga fuku ano basho ni
สายลมที่แสนคิดถึงได้พัดพาไปยังสถานที่แห่งนั้น
これから何度も行けるように
korekara nandomo ikeru you ni
จากนี้ต่อไป พวกเราก็จะก้าวไปด้วยกันไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม
しわくちゃな笑顔並べて座って
shiwakucha na egao narabete suwatte
ถึงแม้รอยยิ้มจะเหี่ยวย่นลง แต่ผมก็จะขอนั่งเคียงข้างเธอ
いつか今日の話をしよう
itsuka kyou no hanashi wo shiyou
แล้วสักวันเรามาพูดคุยเรื่องราวของวันนี้กันนะ



สำหรับชื่อเพลงนี้ アイトユウ อ่านว่า ai to yuu ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหมายความว่าอะไร แต่พอมาลองคิดดี ๆ ประกอบกับได้เห็นปกซิงเกิล ทำให้เข้าใจได้ว่าชื่อเพลงนี้สามารถอ่านได้เป็น I to You ซึ่งมีความหมายว่า I and You หรือ ‘ฉันและเธอ’ แต่ในตอนแปลในเพลงขอใช้คำว่า ‘ผม’ แทน

หวังว่าจะชอบกันนะครับสำหรับเพลงรัก ซึ้ง ๆ แบบนี้ ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดไปก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ไว้พบกันใหม่ผลงานถัดไป ‘ผลงานฉลองครบรอบ 1 ปี Kizuna Lyrics Translator’
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกันนะครับ :)

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Starry Wish / Minase Inori



Starry Wish / 水瀬いのり



強くなりたいと震えている 背中を見つめて
tsuyoku naritai to furueteiru senaka wo mitsumete
ตัวฉันที่สั่นไหวด้วยความรู้สึกที่อยากแข็งแกร่งขึ้น ได้แต่เฝ้ามองแผ่นหลังของเธอ
凛と咲く花に願い事「君のことを守りたい」
rin to saku hana ni negai koto “kimi no koto wo mamoritai”
ฉันจึงอธิษฐานต่อหน้าดอกไม้ที่เบ่งบานอย่างงดงามว่า ”ฉันอยากเป็นคนปกป้องเธอบ้าง”


一人じゃ歩けないと気付いた 眠れない街で
hitori ja arukenai to kizuita nemurenai machi de
ฉันรู้สึกได้ว่าฉันไม่ได้เดินอยู่ตามลำพังในเมืองที่ไม่หลับใหล
大切な人の手の温もりで 僕は優しくなれた
taisetsu na hito no te no nukumori de boku wa yasashiku nareta
ด้วยความอบอุ่นจากมือของคนที่แสนสำคัญทำให้ฉันรู้สึกอ่อนโยนขึ้นมา


飛び立てるよ もう迷わない
tobitateruyo mou mayowanai
จะโบยบินไปโดยไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว
見上げれば 果てない 星よ 僕らを照らして
miagereba hatenai hoshi yo bokura wo terashite
พอเงยหน้าขึ้นมอง เหล่าดวงดาวที่ไร้ขอบเขตสิ้นสุดก็ส่องสว่างมาที่เรา


巡り巡る時間(とき)の中で 芽生えた願い 紡いでく
meguri meguru toki no naka de mebaeta negai tsumuideku
ท่ามกลางช่วงเวลาที่หมุนเวียนไปมา ฉันจะถักทอความปรารถนาที่เพิ่มพูนขึ้น
悲しみの記憶は 勇気の種になる
kanashimi no kioku wa yuuki no tane ni naru
แม้จะเป็นความทรงจำที่แสนเศร้าก็จะกลายเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความกล้า
希望の光 貫いて
kibou no hikari tsuranuite
ให้ฟันฝ่าไปด้วยแสงสว่างแห่งความหวัง


閉じ込めた心の鍵は 僕が開けてみせる
tojikometa kokoro no kagi wa boku ga akete miseru
ถึงหัวใจของเธอจะถูกปิดเอาไว้ ฉันก็จะเป็นคนเปิดมันออกมาเอง
描き出す 未来の地図よ 強く輝いて
egakidasu mirai no chizu yo tsuyoku kagayaite
แล้วแผนที่ของอนาคตขึ้นมาที่เราช่วยกันวาดก็ส่องสว่างอย่างเจิดจ้า


傷つかないものなんてないと 誰かが言ってた
kizutsukanai mono nante nai to dareka ga itteta
ใครซักคนเคยพูดเอาไว้ว่าสิ่งที่ไม่ทำให้บาดเจ็บน่ะมันไม่มีหรอก
乗り越えてきた一つ一つ 夢のつぼみになる
norikoetekita hitotsu hitotsu yume no tsubomi ni naru
แต่ฉันก็จะค่อย ๆ ก้าวข้ามมันไปให้ได้ แล้วกลายเป็นดอกตูมแห่งความฝัน


君といれば もう怖くない
kimi ga ireba mou kowakunai
ตราบที่ยังมีเธออยู่ ฉันก็จะไม่กลัวอีกต่อไป
寄りそえば 微笑む 星よ 僕らを照らして
yorisoeba hohoemu hoshi yo bokura wo terashite
พอได้แนบชิดใกล้กัน เหล่าดวงดาวที่ยิ้มแย้มก็ส่องสว่างมาที่เรา


巡り巡る時間(とき)の中で 確かな温もり感じてる
meguri meguru toki no naka de tashikana nukumori kanjiteru
ท่ามกลางช่วงเวลาที่หมุนเวียนไปมา ฉันสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่มั่นคง
愛する歓びは 勇気の花になる 希望の光 貫いて
aisuru yorokobi wa yuuki no hana ni naru kibou no hikari tsuranuite
แล้วความยินดีที่ได้รักใครซักคนก็กลายเป็นดอกไม้แห่งความกล้า
ให้ฟันฝ่าไปด้วยแสงสว่างแห่งความหวัง


空白の思い出ならば 僕が埋めてみせる
kuuhaku no omoide naraba boku ga umete miseru
ถึงจะเป็นความทรงจำที่ว่างเปล่า ฉันก็จะเป็นคนเติมเต็มให้เอง
この誓い自由の空へ 遠く羽ばたいて
kono chikai jiyuu no sora e tooku habataite
คำสาบานนี้จะล่องลอยไกลไปยังผืนฟ้าแห่งอิสรภาพ


心の中 見せ合えたなら 何度だって立ち上がれるんだ
kokoro no naka miseaeta nara nando datte tachiagarerunda
หากได้เห็นข้างในหัวใจของกันและกัน ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ฉันก็จะลุกขึ้นมา
あの日見せた 君の笑顔 僕は取り戻すよ
ano hi miseta kimi no egao boku wa torimodosu yo
ฉันจะทวงคืนรอยยิ้มของเธอที่ได้เห็นในวันนั้นกลับมาให้เอง


星降る夜 瞳閉じて 溢れる想い信じてる
hoshi furu yoru hitomi tojite afureru omoi shinjiteru
ในค่ำคืนที่ดวงดาวตกลงมา ฉันหลับตาลงและเชื่อมั่นในความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมา
歓喜の歌声は 未来へ鳴り響く
kanki no uta koe wa mirai e nari hibiku
เสียงร้องที่สนุกสนานนี้จะดังก้องกังวานไปยังอนาคต
希望の光 それは君
kibou no hikari sore ga kimi
แสงสว่างแห่งความหวังนี้ก็คือเธอ


大きく両手を広げて 君と駆け抜けよう
ookiku ryoute wo hirogete kimi to kakenukeyou
กางมือออกให้กว้าง และฟันฝ่าไปพร้อมกับเธอ
かけがえない 僕らの時間
kakegaenai bokura no jikan
ช่วงเวลาของฉันที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้
美しく輝け 繋いだ手の中で
utsukushiku kagayake tsunada te no naka de
จะส่องสว่างอย่างงดงาม อยู่ภายในมือที่กุมกันไว้

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Kaze ga Fuku Machi / LUCKLIFE



風が吹く街 / ラックライフ



抱きしめて離さずに
dakishimete hanasazu ni
จะกอดมันเอาไว้ จะไม่ปล่อยไปไหน
大事なモノと今
daiji na mono to ima
สิ่งสำคัญกับช่วงเวลาปัจจุบัน
僕はここで息をしてる
boku wa koko de iki wo shiteru
ที่ทำให้ฉันยังคงหายใจอยู่ตรงนี้


君がくれた言葉は
kimi ga kureta kotoba wa
คำพูดที่เธอมอบให้ฉันมา
今も僕の中の
ima mo boku no naka no
ตอนนี้มันอยู่ ณ มุมหนึ่ง
片隅に置いてある
katasumi ni oite aru
ในตัวฉัน
大事にしまっている
daiji ni shimatte iru
ฉันจะรักษามันเป็นอย่างดี
いつも胸の中にある
itsumo mune no naka ni aru
ข้างในหัวใจของฉันตลอดไป


何度も思い出しては
nandomo omoidashite wa
หลายต่อหลายครั้งที่นึกถึงมัน
心で繰り返してる
kokoro de kurikaeshiteru
ยิ่งเป็นการตอกย้ำในใจ
その度力になる
sono tabi chikara ni naru
ให้มันกลายพลังให้กับฉัน


風が吹くこの街で
kaze ga fuku machi de
ภายในเมืองนี้ที่สายลมพัดผ่าน
生きてるよ僕らしく
ikiteru yo boku rashiku
ฉันจะมีชีวิตต่อไปในแบบของฉัน
君に胸張れるように
kimi ni mune hareru you ni
เพื่อที่จะได้ยืดอกภูมิใจต่อหน้าเธอได้
抱きしめて離さずに
dakishimete hanasazu ni
จะกอดมันเอาไว้ จะไม่ปล่อยไปไหน
大事なモノと今
daiji na mono to ima
สิ่งสำคัญกับช่วงเวลาปัจจุบัน
僕はここで息をしてる
boku wa koko de iki wo shiteru
ที่ทำให้ฉันยังคงหายใจอยู่ตรงนี้


何か変わる気がしてた
nanika kawaru ki ga shiteta
ฉันรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกไป
僕ら生きる世界
bokura ikiru sekai
บนโลกที่เรามีชีวิตอยู่
淡々と廻ってる
tantan to mawatteru
แม้ว่ามันจะหมุนไปตามปกติ
何も変わりやしない
nani mo kawari yashinai
แต่กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนไป
こんなにも違うのに
konna ni mo chigau noni
แบบนี้มันเริ่มผิดปกติแล้วสิ


世界は救えなくていい
sekai wa sukuenakute ii
แม้ว่าโลกจะไม่ถูกช่วยไว้ก็ไม่เป็นไร
でも大事なモノだけ
demo daiji no mono dake
ขอเพียงแค่สิ่งสำคัญเท่านั้น
ちゃんと握り締めてる
chanto nigiri shimeteru
ที่ฉันจะกำรักษามันเอาไว้ให้แน่น


あれからどれくらい
are kara dore kurai
แล้วหลังจากนั้น พวกเรา
僕ら進めたのかな
bokura susumeta no ka na
จะต้องเดินไปข้างหน้าอีกเท่าไหร่กัน
ふと思い出すのさ
futo omidasu no sa
จู่ ๆ ก็นึกขึ้นมาได้
確かにあの時
tashikani ano toki
ว่าจริงด้วยสิ ในตอนนั้น
共に生きた日々の
tomi no ikita hibi no
อนาคตของวันเวลาที่ได้มีชีวิตร่วมกับเธอ
未来がここにあるよ
mirai ga koko ni aru yo
อยู่ที่ตรงนี้แล้วไง


君がくれた言葉は
kimi ga kureta kotoba wa
คำพูดที่เธอมอบให้ฉันมา
今も僕の中の
ima mo boku no naka no
ตอนนี้มันอยู่ ณ มุมหนึ่ง
片隅に置いてある
katasumi ni oite aru
ในตัวฉัน
大事にしまっている
daiji na mono to ima
สิ่งสำคัญกับช่วงเวลาปัจจุบัน
いつも胸の中にある
itsumo mune no naka ni aru
ข้างในหัวใจของฉันตลอดไป


風が吹くこの街で
kaze ga fuku machi de
ภายในเมืองนี้ที่สายลมพัดผ่าน
生きてるよ僕らしく
ikiteru yo boku rashiku
ฉันจะมีชีวิตต่อไปในแบบของฉัน
君に胸張れるように
kimi ni mune hareru you ni
เพื่อที่จะได้ยืดอกภูมิใจต่อหน้าเธอได้
抱きしめて離さずに
dakishimete hanasazu ni
จะกอดมันเอาไว้ จะไม่ปล่อยไปไหน
大事なモノと今
daiji na mono to ima
สิ่งสำคัญกับช่วงเวลาปัจจุบัน
僕はここで
boku wa koko de
ที่ทำให้ฉันยังคงอยู่ตรงนี้


あれからどれくらい
are kara dore kurai
แล้วหลังจากนั้น พวกเรา
僕ら進めたのかな
bokura susumeta no ka na
จะต้องเดินไปข้างหน้าอีกเท่าไหร่กัน
ふと思い出すのさ
futo omidasu no sa
จู่ ๆ ก็นึกขึ้นมาได้
確かにあの時
tashikani ano toki
ว่าจริงด้วยสิ ในตอนนั้น
共に生きた日々の
tomi no ikita hibi no
อนาคตของวันเวลาที่ได้มีชีวิตร่วมกับเธอ
未来がここにあるよ
mirai ga koko ni aru yo
อยู่ที่ตรงนี้แล้วไง