วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561

under a starlit sky / fripSide



under a starlit sky / fripSide




夜空を照らす 星の光は
yozora wo terasu hoshi no hikari wa
แสงดาวที่ส่องสว่างท้องฟ้าในตอนกลางคืน
遥かな 時を旅して 今僕らの瞳へ
harukana toki wo tabishite ima bokura no hitomi e
ได้เดินทางผ่านห้วงเวลาอันแสนไกล มาสู่ดวงตาของเราในตอนนี้
静寂だけが 教えてくれた
seijaku dake ga oshiete kureta
มีเพียงความเงียบงัน ที่สอนให้รู้
僕らのこの世界の 限りある明日
bokura no kono sekai no kagiri aru ashita
ถึงวันพรุ่งนี้้ที่มีจำกัดในโลกใบนี้ของเรา



今日も 誰かが何処かで 裏切りと苦しみに耐えて生きてる
kyou mo dareka ga dokoka de uragiri to kurushimi ni taete ikiteru
วันนี้เอง ใครสักคนกำลังอดทนกับการถูกหักหลังและความโศกเศร้าอยู่ที่ไหนสักแห่ง
人の愚かさを 僕らは等しく抱えて 今この時代を作り上げてる
hito no orokasa wo bokura wa hitoshiku kakaete ima kono jidai wo tsukuriageteru
พวกเราแบกรับความโง่เขลาของผู้คนเอาไว้เท่า ๆ กัน ตอนนี้พวกเราจะสร้างยุคสมัยนี้ขึ้นมา



目を逸らさずに真実を 受け止めて君と生きてく
me wo sorasazu ni shinjitsu wo uketomete kimi to ikiteku
ฉันจะยอมรับความจริงโดยไม่ละสายตาหนีไป และมีชีวิตอยู่กับเธอ
悲劇と痛みを共有して
higeki to itami wo kyouyuu shite
เราแบ่งปันเรื่องเศร้าและความเจ็บปวดให้กันและกัน
抱きしめた君の体の その熱を感じたなら
dakishimeta kimi no karada no sono netsu wo kanjita nara
หากรู้สึกได้ถึงไออุ่นนั้นจากร่างของเธอที่ฉันกอดไว้
明日は少し 優しい風が吹くのだろう
ashita wa sukoshi yasashii kaze ga fuku no darou
พรุ่งนี้คงจะมีสายลมที่อ่อนโยนพัดพามา



決して僕らは孤独じゃないと 信じた
kesshite bokura wa kodoku janai to shinjita
เคยเชื่อมั่นว่าเราไม่เคยโดดเดี่ยว
時は再び 混沌を投げつける
toki wa futatabi konton wo nagetsukeru
แต่ช่วงเวลาได้โยนความสับสนวุ่นวายเข้าใส่อีกครั้ง
繰り返される 過ちがまだ
kurikaesareru ayamachi ga mada
และซ้ำไปซ้ำมา ความผิดพลาดก็ยังคง
僕らのこの世界を 一つにさせない
bokura no kono sekai wo hitotsu ni sasenai
ไม่ยอมให้โลกของเราเป็นหนึ่งเดียวกัน



ずっと 心のどこかで 嘘と真実が戦い続ける
zutto kokoro no dokoka de uso to shinjitsu ga tatakai tsuzukeru
ที่ไหนสักแห่งข้างในหัวใจ คำลวงและความจริงยังคงต่อสู้กันมาโดยตลอด
本当の気持ちは心の奥深く眠り 誰かの救いを待ち続けてる
hontou no kimochi wa kokoro no oku fukaku nemuri dareka no sukui wo machitsuzukteru
ความรู้สึกที่แท้จริงหลับใหลอยู่ในส่วนลึกข้างในหัวใจ และกำลังรอช่วยเหลือใครสักคน



言葉はいつも力無く その空虚に木霊する
kotoba wa itsumo chikara naku sono kuukyo ni kodamasuru
คำพูดที่ไร้ซึ่งพลัง ดังก้องในความว่างเปล่าอยู่เสมอ
だからせめて今日は素直に
dakara semete kyou wa sunao ni
เพราะฉะนั้น อย่างน้อยวันนี้ฉันก็พูดออกไปอย่างซื่อตรง
「またね」と笑った君から 1mmも離れたくない
‘mata ne’ to waratta kimi kara ichi miri mo hanaretakunai
เพราะเธอยิ้มแล้วพูดออกมาว่า ‘แล้วเจอกันนะ’ ฉันจึงไม่อยากจากเธอไปไหนแม้แต่มิลฯ เดียว
冷たい月が 作り出した 心の影
tsumetai tsuki ga tsukuri dashita kokoro no kage
ดวงจันทร์ที่เยือกเย็น ได้สร้างเงามืดขึ้นในใจ



いくつもの 忘れられない
ikutsumo no wasurerarenai
ความทรงจำมากมายที่มีร่วมกับเธอ
君との記憶がいつでも この場所照らしてる
kimi to no kioku itsudemo kono basho terashiteru
ที่ฉันไม่อาจลืมมันไปได้ กำลังส่องแสงให้กับสถานที่นี้อยู่เสมอ



目を逸らさずに真実を 受け止めて君と生きてく
me wo sorasazu ni shinjitsu wo uketomete kimi to ikiteku
ฉันจะยอมรับความจริงโดยไม่ละสายตาหนีไป และมีชีวิตอยู่กับเธอ
悲劇と痛みを共有して
higeki to itami wo kyouyuu shite
เราแบ่งปันเรื่องเศร้าและความเจ็บปวดให้กันและกัน
抱きしめた君の体の その熱を感じたなら
dakishimeta kimi no karada no sono netsu wo kanjita nara
หากรู้สึกได้ถึงไออุ่นนั้นจากร่างของเธอที่ฉันกอดไว้
明日は少し 優しい風が吹くのだろう
ashita wa sukoshi yasashii kaze ga fuku no darou
พรุ่งนี้คงจะมีสายลมที่อ่อนโยนพัดพามา
君と手を 繋いだまま
kimi to te wo tsunaida mama
ฉันยังคงจับมือของเธอไว้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น