glorious wind / fripSide
夕日に染まってく街並み 見渡すこの坂道で
yuuhi ni somatteku machinami miwatatsu kono sakamichi de
ตรงทางลาดนี้ ที่ฉันทอดสายตาออกไปมองทิวทัศน์ของเมือง
ที่ถูกย้อมด้วยอาทิตย์ตกดิน
いつかの2人が笑い合う 声が聞こえた気がした
itsuka no futari ga waraiau koe ga kikoeta ki ga shita
ฉันรู้สึกว่าได้ยินเสียงที่สองเราหัวเราะให้กันในวันหนึ่ง
まだ少し冷たい潮風 あの頃を思い出した
mada sukoshi tsumetai shiokaze anogoro wo omoidashita
สายลมทะเลยังคงเย็นอยู่นิด ๆ ฉันได้นึกถึงช่วงเวลาในตอนนั้น
まだ見えない明日を手探りで捜していた
mada mienai asu wo tesaguri de sagashiteita
และได้แต่คลำหาวันพรุ่งนี้ที่ฉันยังคงมองไม่เห็น
違う未来を描いてた 互いの想いの形
chigau mirai wo egaiteta tagai no omoi no katachi
รูปลักษณ์ความรู้สึกของแต่ละคน วาดอนาคตที่ต่างกันออกไปขึ้นมา
囁き合うその言葉は 儚い時間の中
sasayakiau sono kotoba wa hakanai jikan no naka
ท่ามกลางช่วงเวลาที่เปราะบาง ถ้อยคำกระซิบหากันเหล่านั้น
この風の音に消えた
kono kaze no ne ni kieta
ได้หายลับไปในเสียงของสายลม
今私は歩いていく その答えを今も探してる
ima watashi wa aruiteiku sono kotae wo ima mo sagashiteru
ตัวฉันในตอนนี้กำลังก้าวเดินไป แม้แต่ตอนนี้เอง ฉันก็กำลังค้นหาคำตอบนั้น
進むことに迷った日々に惑わされない様に
susumu koto ni mayotta hibi ni madowasarenai you ni
เพื่อไม่ให้จิตใจว้าวุ่นในวันเวลาที่รู้สึกลังเลกับการก้าวเดินไป
限りのある時間のなか 描けるだけ描いた夢は
kagiri no aru jikan no naka egakeru dake kaita yume wa
ท่ามกลางเวลาที่มีอยู่จำกัด ความฝันที่ฉันวาดขึ้นมาเท่าที่จะวาดได้
いつかきっと君のもとへ 届くと信じている
itsuka kitto kimi no moto e todoku to shinjiteiru
ฉันเชื่อว่าสักวันมันจะต้องส่งไปถึงเธอ
心の片隅に潜んだ 弱さと向き合っている
kokoro no katasumi ni hisonda yowasa to mukiatteiru
ฉันกำลังเผชิญหน้ากับความอ่อนแอที่หลบซ่อนอยู่ ณ มุมหนึ่งของหัวใจ
暮れゆく街が落とす影に あの日の記憶が揺れる
kureyuku machi ga otosu kage ni ano hi no kioku ga yureru
ความทรงจำในวันนั้น สั่นไหวอยู่ในเงาที่ทอดลงของเมืองที่เข้าสู่ยามเย็น
まだ少し冷たい潮風 君の笑顔が浮かんで
mada sukoshi tsumetai shiokaze kimi no egao ga ukande
สายลมทะเลยังคงเย็นอยู่นิด ๆ รอยยิ้มของเธอปรากฏขึ้นมาในใจของฉัน
かけがえのないあの日が今でも懐かしい
kakegae no nai ano hi ga ima demo natsukashii
วันนั้นที่ไม่มีอะไรมาทดแทน แม้แต่ตอนนี้ฉันก็หวนระลึกถึงมัน
止まることのない季節が それぞれの時刻んで
tomaru koto no nai kisetsu ga sorezore no toki kizande
ฤดูกาลที่ไม่มีวันหยุดลง จารึกช่วงเวลาของแต่ละคนไว้
誓い合ったその言葉は 切なく輝いて
chikaiatta sono kotoba wa setsunaku kagayaite
คำพูดนั้นที่เราสาบานกัน เปล่งประกายอย่างเจ็บปวดและ
この風の音に消えた
kono kaze no ne ni kieta
ได้หายลับไปในเสียงของสายลม
私たちはいつの日にも 温かな幸せを求めて
watashitachi wa itsu no hi ni mo atataka na shiawase wo motomete
ไม่ว่าวันไหน พวกเราต่างก็ต้องการความสุขอันแสนอบอุ่น
少しずつ思い出を無くしてしまっているから
sukoshi zutsu omoide wo nakushite shimatteiru kara
เพราะว่าเราต่างก็กำลังสูญเสียความทรงจำไปทีละนิด ๆ
今あなたが見える景色 私にはわからないけれど
ima anata ga mieru keshiki watashi ni wa wakaranai keredo
ทิวทัศน์ที่เธอมองเห็นอยู่ในตอนนี้ ฉันไม่เข้าใจหรอก แต่ว่า
それはきっとあの日のまま 今も輝いている
sore wa kitto ano hi no mama ima mo kagayaiteiru
ทิวทัศน์นั้นน่ะ แม้แต่ตอนนี้มันต้องกำลังเปล่งประกาย
เหมือนดั่งในวันนั้นอย่างแน่นอน
今私は歩いていく その答えを今も探してる
ima watashi wa aruiteiku sono kotae wo ima mo sagashiteru
ตัวฉันในตอนนี้กำลังก้าวเดินไป แม้แต่ตอนนี้เอง ฉันก็กำลังค้นหาคำตอบนั้น
進むことに迷った日々に惑わされない様に
susumu koto ni mayotta hibi ni madowasarenai you ni
เพื่อไม่ให้จิตใจว้าวุ่นในวันเวลาที่รู้สึกลังเลกับการก้าวเดินไป
限りのある時間のなか 描けるだけ描いた夢が
kagiri no aru jikan no naka egakeru dake kaita yume ga
ท่ามกลางเวลาที่มีอยู่จำกัด ความฝันที่ฉันวาดขึ้นมาเท่าที่จะวาดได้
いつかきっと君のもとへ 届くと信じている
itsuka kitto kimi no moto e todoku to shinjiteiru
ฉันเชื่อว่าสักวันมันจะต้องส่งไปถึงเธอ
私たちはいつの日にも 温かな幸せを求めて
watashitachi wa itsu no hi ni mo atataka na shiawase wo motomete
ไม่ว่าวันไหน พวกเราต่างก็ต้องการความสุขอันแสนอบอุ่น
少しずつ思い出を無くしてしまっているから
sukoshi zutsu omoide wo nakushite shimatteiru kara
เพราะว่าเราต่างก็กำลังสูญเสียความทรงจำไปทีละนิด ๆ
今あなたが見える景色 私にはわからないけれど
ima anata ga mieru keshiki watashi ni wa wakaranai keredo
ทิวทัศน์ที่เธอมองเห็นอยู่ในตอนนี้ ฉันไม่เข้าใจหรอก แต่ว่า
それはきっとあの日のまま 今も輝いている
sore wa kitto ano hi no mama ima mo kagayaiteiru
ทิวทัศน์นั้นน่ะ แม้แต่ตอนนี้มันต้องกำลังเปล่งประกาย
เหมือนดั่งในวันนั้นอย่างแน่นอน