วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561

Rainbow Flower / Tachibana Hibiki (CV : Yuki Aoi)



Rainbow Flower / 立花響 (CV : 悠木碧)



(Ye-e-Ye-e Ha-a Kort gungnir messa baggy)
(Ye-e-Ye-e Ha-a Kort gungnir messa brossy...Gungnir)


幾億の歴史を超えて
ikuoku no rekishi wo koete
ข้ามผ่านร้อยล้านปีแห่งประวัติศาสตร์
この胸の(Go) 問いかけに(Go) 応えよShine
kono mune no (Go) toikake ni (Go) kotae yo Shine
เพื่อตอบ (Go) คำถามที่ (Go) มีอยู่ในใจ Shine


焔より熱い想いよ
honou yori atsui omoi yo
ความรู้สึกที่ร้อนแรงยิ่งกว่าเปลวเพลิงเอ๋ย
鋼鉄の(Go) イカヅチで(Go) ぶっ飛ばせMy Gungnir
koutetsu no (Go) ikazuchi de (Go) buttobase My Gungnir
จงฝ่า (Go) ทะลวงไป (Go) ด้วยหอกเหล็กกล้า My Gungnir


最速で最短で一直線に
saisoku de saitan de icchokusen ni
ณ ทางตรงที่เร็วที่สุดและสั้นที่สุด
光った(Fly) 朝日を(Fly)
hikatta (Fly) asahi wo (Fly)
ดวงอาทิตย์ยามเช้า (Fly) นั้นส่องสว่างอยู่ (Fly)
君と共に 見たい(見たい) 今(今)見上げよう
kimi totomoni mitai (mitai) ima (ima) miageyou
ฉันอยากจะดูมันไปด้วยกันกับเธอ (กับเธอ) ตอนนี้ (ตอนนี้) แหงนหน้าขึ้นมองเถอะ


響け(響け)伝え(伝え)歌え(歌え)
hibike (hibike) tsutae (tsutae) utae (utae)
จงกังวาน (จงกังวาน) จงส่งไป (จงส่งไป) จงขับขาน (จงขับขาน)
全力で「一人じゃない」と届けたい
zenryoku de "hitori ja nai" to todoketai
ฉันอยากจะบอกว่า “เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวหรอกนะ” ด้วยพลังทั้งหมดที่มี


響け(響け)伝え(伝え)歌え(歌え)
hibike (hibike) tsutae (tsutae) utae (utae)
จงกังวาน (จงกังวาน) จงส่งไป (จงส่งไป) จงขับขาน (จงขับขาน)
そしてッ! 笑おう…! この世界には 歌がある
soshite! waraou...! kono sekai ni wa uta ga aru
และจากนั้น! ก็มายิ้มด้วยกันเถอะนะ…! ในโลกใบนี้น่ะ ยังมีบทเพลงอยู่


何度でも立ち上がれるさ
nandodemo tachiagareru sa
ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ฉันก็จะลุกขึ้นมา
ちょっとだけ(Go) 来た道を(Go) 見てごらん?
chotto dake (Go) kita michi wo (Go) mite goran?
เธอจะไม่ลองมองไปยัง (Go) เส้นทางที่พวกเราเคยผ่านมา (Go) ดูสักหน่อยเหรอ?


こんなにも輝いている
konna ni mo kagayaite iru
มันส่องสว่างมากขนาดนี้เลยนะ
積み上げた(Go) 物語(Go) 嘘は何もない
tsumiageta (Go) monogatari (Go) uso wa nani mo nai
เรื่องราวที่พวกเรา (Go) รวบรวมมา (Go) มันไม่ใช่เรื่องโกหกเลย


「いつか未来に人は繋がれる…」
“Itsuka mirai ni hito wa tsunagareru…”
“สักวันหนึ่งในอนาคต ผู้คนจะเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน...”
大事な(Fly) 友から(Fly)
daijina (Fly) tomo kara (Fly)
คำพูดที่ฉัน (Fly) ได้รับมาจาก (Fly)
貰った言葉 絶対(絶対) 夢(夢)紡ぐから
moratta kotoba zettai (zettai) yume (yume) tsumugu kara
เพื่อนคนสำคัญจะต้อง (จะต้อง) ถักทอ (ถักทอ) ความฝันได้อย่างแน่นอน


響け(響け)伝え(伝え)歌え(歌え)
hibike (hibike) tsutae (tsutae) utae (utae)
จงกังวาน (จงกังวาน) จงส่งไป (จงส่งไป) จงขับขาน (จงขับขาน)
全開で 愛の挽歌よ轟いて
zenkai de ai no banka yo todoroite
ฉันจะคำรามบทเพลงอาลัยแห่งความรักออกไปให้สุดเสียง


響け(響け)伝え(伝え)歌え(歌え)
hibike (hibike) tsutae (tsutae) utae (utae)
จงกังวาน (จงกังวาน) จงส่งไป (จงส่งไป) จงขับขาน (จงขับขาน)
そしてッ! 勇気も何もかもを 全部束ねよう
soshite! yuuki mo nani mo kamo wo zenbu tabaneyou
และจากนั้น! ก็มารวมเอาความกล้ากับทุกสิ่งเข้าไว้ด้วยกันเถอะ


(Balwisyall nescell gungnir tron)


君と私、みんな、みんな
kimi to watashi, minna, minna
เธอกับฉัน และทุกคน ทุก ๆ คน
歩みきった、足跡に、どんな花が咲くのかなぁ?
ayumi kitta, ashiato ni, donna hana ga saku no kanaa?
จะมีดอกไม้แบบไหนเบ่งบานออกมาจากรอยเท้าที่เดินผ่านมากันนะ?
泣いて、笑い、生まれ落ちた、涙、なみだ…、
naite, warai, umareochita, namida, namida...,
จะร้องไห้ หรือหัวเราะ ก็มีน้ำตาเกิดขึ้นมา และหยาดน้ำตานั้น...
きっと 綺麗な虹の花になって 咲き歌う…!
kitto kirei na niji no hana ni natte saki utau...!
จะต้องกลายเป็นดอกไม้สีรุ้งอันแสนงดงาม
เบ่งบานและขับขานบทเพลงออกมาแน่นอน…!


響け(響け)伝え(伝え)歌え(歌え)
hibike (hibike) tsutae (tsutae) utae (utae)
จงกังวาน (จงกังวาน) จงส่งไป (จงส่งไป) จงขับขาน (จงขับขาน)
全力で「一人じゃない」と届けたい
zenryoku de "hitori ja nai" to todoketai
ฉันอยากจะบอกว่า “เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวหรอกนะ” ด้วยพลังทั้งหมดที่มี


響け(響け)伝え(伝え)歌え(歌え)
hibike (hibike) tsutae (tsutae) utae (utae)
จงกังวาน (จงกังวาน) จงส่งไป (จงส่งไป) จงขับขาน (จงขับขาน)
そしてッ! また会うその日まで笑顔の「サヨナラ」だ!
soshite! mata au sono hi made egao no "sayonara" da!
และจากนั้น! จนกว่าจะถึงวันที่เราได้พบกันอีกครั้ง
มันจะเป็น “คำบอกลา” ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม!
絶対に…絶対に…ッ!
zettai ni...zettai ni...!
อย่างแน่นอน… อย่างแน่นอน…!

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561

1983-schwarzesmarken-(IS3 version) / fripSide



1983-schwarzesmarken-(IS3 version) / fripSide



壊れかけたこの世界でまだ明日を夢見るから
koware kaketa kono sekai de mada ashita wo yume miru kara
ในโลกใบนี้ที่ล่มสลาย ฉันยังคงฝันถึงวันพรุ่งนี้
信じる心だけこの胸に秘めて今日も全てを賭け闘う
shinjiru kokoro dake kono mune ni himete kyou mo subete wo kake tatakau
มีเพียงหัวใจที่เชื่อมั่นที่ฉันเก็บซ่อนไว้ในอกข้างนี้
ในวันนี้ ฉันต่อสู่โดยเดิมพันทุกอย่างไว้


ずっと夢を見てた 僅かな煌きは
zutto yume wo miteta wazukana kirameki wa
ฉันฝันเห็นประกายแสงริบหรี่มาโดยตลอด
灰色のこの空だけ 繋がってる壁の向こう側
haiiro no kono sora dake tsunagatteru kabe no mukougawa
มีเพียงท้องฟ้าสีเทา ที่เชื่อมไปยังอีกฟากของกำแพง
哀しみも痛みも 生きている証と
kanashimi mo itami no ikiteiru akashi to
ทั้งความเศร้าและความเจ็บปวด เป็นหลักฐานการมีชีวิตอยู่
そう思って人は今も 何かを守っているなら
sou omotte hito wa ima mo nanika wo mamotte iru nara
ในตอนนี้ผู้คนที่คิดแบบนั้น หากมีบางสิ่งที่ต้องปกป้องไว้


不条理なルールに縛られた時代に
fujouri na ruuru ni shibarareta jidai ni
ในยุคสมัยที่ถูกผูกมัดด้วยกฎที่ไร้เหตุผล
その闇を切り裂いて行くだけ
sono yami wo kirisaite yuku dake
มีแต่จะต้องฟันฝ่าความมืดมิดนั้นไปเท่านั้น


壊れかけたこの世界でまだ明日を夢見るから
koware kaketa kono sekai de mada ashita wo yume miru kara
ในโลกใบนี้ที่ล่มสลาย ฉันยังคงฝันถึงวันพรุ่งนี้
信じる心だけ今は胸に秘めて 光捜す
shinjiru kokoro dake ima wa mune ni himete hikari sagasu
มีเพียงหัวใจที่เชื่อมั่นที่ตอนนี้ฉันเก็บซ่อนไว้ในอกข้างนี้
ฉันจะออกตามหาแสงสว่าง
It's just the truth in my heart 消せない傷
It's just the truth in my heart kesenai kizu
มันเป็นความจริงที่อยู่ในใจฉัน เป็นบาดแผลที่ลบออกไปไม่ได้
その痛みも希望にして
sono itami mo kibou ni shite
แต่ความเจ็บปวดนั้นจะกลายเป็นความหวัง
巡り巡る闘いの物語はやがてその運命を拓く…!
meguri meguru tatakai no monogatari wa yagate sono unmei wo hiraku…!
ในที่สุดเรื่องราวการต่อสู้ที่วนเวียนไปมา ก็ได้เปิดโชคชะตานั้นออก…!


霞む空を見上げ 過ぎた日々を想う
kasumu sora wo miage sugita hibi wo omou
ฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดสลัว และนึกถึงวันเวลาที่ได้ล่วงเลยไป
逃げ場のないその現実 見えない壁が阻む自由を
nigeba no nai sono genjitsu mienai kabe ga habamu jiyuu wo
ความเป็นจริงนั้นที่ไม่สามารถหลีกหนีได้
เป็นกำแพงที่มองไม่เห็นที่ขวางกั้นฉันจากอิสรภาพ
刻んでる記憶の迷路に立ち尽くす
kizanderu kioku no meiro ni tachitsukusu
ฉันยืนอยู่ในเขาวงกตแห่งความทรงจำที่ถูกจารึกไว้
それでもまた歩き出すと 誓ったあの日があるから
soredemo mada arukidasu to chikatta ano hi ga aru kara
แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็มีคำสาบานที่ได้ให้ไว้ในวันนั้น ว่าฉันยังคงจะก้าวต่อไป


正しさの定義なんて意味はないけど
tadashisa no teigi nante imi wa nai kedo
นิยามของความถูกต้อง มันไม่มีความหมายหรอก
目の前の絆を守りたい
me no mae no kizuna wo mamoritai
แต่ว่าฉันก็อยากปกป้องสายสัมพันธ์ที่อยู่ตรงหน้าไว้


崩れそうなこの街にもまだ明日を繋げたくて
kuzure souna kono machi ni mo mada ashita wo tsunagetakute
ในเมืองนี้ที่แทบจะล่มสลาย ฉันยังคงปรารถนาที่จะเชื่อมโยงไปยังวันพรุ่งนี้
曲げない意志だけをこの両手に込めて 君を守る
magenai ishi dake wo kono ryoute ni komete kimi wo mamoru
ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ในมือคู่นี้ ฉันจะปกป้องเธอไว้
But just the truth in my heart まだ見ぬ夢
But just the truth in my heart mada minuyume
แต่มันก็เป็นความจริงที่อยู่ในใจฉัน ความฝันที่ยังไม่เคยเห็น
捜し出すことが出来たら
sagashidasu koto ga dekitara
หากตามหามันพบล่ะก็
この先どんな絶望が待ち受けていても超えられると思えた…
kono saki donna zetsubou ga machiuketeite mo koerareru to omoeta…
จากนี้ไป ไม่ว่าจะมีความสิ้นหวังแบบไหนรอฉันอยู่ ฉันก็คิดว่าสามารถข้ามผ่านมันไปได้...


君との約束が 絆を強く結び
kimi to no yakusoku ga kizuna wo tsuyoku musubi
คำสัญญาของเรา ได้ผูกมัดสายสัมพันธ์ให้แน่นขึ้น
いくつもの未来に響いていく結末
ikutsumo no mirai ni hibiiteiku ketsumatsu
เป็นบทสรุปที่ก้องกังวานในอนาคตมากมาย


壊れかけのこの心は今も君を求めるから
koware kake no kono kokoro wa ima mo kimi wo motomeru kara
ในตอนนี้หัวใจดวงนี้ที่แตกสลายกำลังเรียกหาเธออยู่
初めて君と出逢えた瞬間いつも 忘れないよ
hajimete kimi to deaeta shunkan itsumo wasurenai yo
ช่วงเวลาที่ฉันได้พบกับเธอเป็นครั้งแรก ฉันจะไม่มีวันลืมแน่นอน


It's just the truth in my heart 消せない傷
It's just the truth in my heart kesenai kizu
มันเป็นความจริงที่อยู่ในใจฉัน เป็นบาดแผลที่ลบออกไปไม่ได้
その痛みも希望にして
sono itami mo kibou ni shite
แต่ความเจ็บปวดนั้นจะกลายเป็นความหวัง
巡り巡る闘いの物語がその時を刻む
meguri meguru tatakai no monogatari ga sono toki wo kizamu
เรื่องราวการต่อสู้ที่วนเวียนไปมา ได้ถูกจารึกลงในช่วงเวลานั้น
崩れそうなこの世界さえまだ光を求めるなら
kuzure souna kono sekai sae mada hikari wo motomeru nara
ในโลกใบนี้ที่แทบจะล่มสลาย หากฉันยังคงปรารถนาแสงสว่างอยู่
曲げない意志だけをこの両手に込めて 全て守る
magenai ishi dake wo kono ryoute ni komete subete mamoru
ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ในมือคู่นี้ ฉันจะปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างไว้
But just the truth in my heart まだ見ぬ夢
But just the truth in my heart mada minuyume
แต่มันก็เป็นความจริงที่อยู่ในใจฉัน ความฝันที่ยังไม่เคยเห็น
捜し出すことが出来たら
sagashidasu koto ga dekitara
หากตามหามันพบล่ะก็
この先どんな絶望が待ち受けていても超えられると思えた…
kono saki donna zetsubou ga machiuketeite mo koerareru to omoeta…
จากนี้ไป ไม่ว่าจะมีความสิ้นหวังแบบไหนรอฉันอยู่ ฉันก็คิดว่าสามารถข้ามผ่านมันไปได้...

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2561

Korekara mo. / Minase Inori



これからも。/ 水瀬いのり



ねぇ ふとした瞬間 気づくと
nee futoshita shunkan kizuku to
นี่ พอได้นึกถึงช่วงเวลาที่ฉันไม่คาดคิด
君のこと思い浮かべてる
kimi no koto omoi ukabeteru
เรื่องราวของเธอและความรู้สึกก็ลอยผ่านเข้ามาในหัว
嬉しい 優しい いとしさと戸惑いが
ureshii yasashii itoshisa to tomadoi ga
ทั้งความรักที่น่ายินดีและอ่อนโยน กับความสับสน
そっと心を満たしてゆく
sotto kokoro wo mitashiteyuku
ต่างก็ค่อย ๆ เติมเต็มลงในหัวใจของฉัน


言いたい 言えない 言わない そんなループ
iitai ienai iwanai sonna ruupu
อยากพูดออกไป แต่พูดออกไปไม่ได้ ไม่พูดออกไปก็ได้ ลูปแบบนี้น่ะ
たやすくこわしてくれた人は
tayasuku kowashite kureta hito wa
คนที่ทำลายมันได้อย่างง่ายดาย
たぶんね 君がはじめてなの
tabun ne kimi ga hajimete na no
บางทีนะ คงมีเธอเป็นคนแรกนั่นแหละ


変わってく私と 変わらない私 全部
kawatteku watashi to kawaranai watashi zenbu
ทั้งตัวฉันเปลี่ยนไป และตัวฉันที่ไม่ได้เปลี่ยนไป
包んでくれてる 眩しい光
tsutsun de kureteru mabushii hikari
กำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยแสงสว่างที่เจิดจ้า
これまでとこれから 続いてゆく道
kore made to korekara tsuzuite yuku michi
จนถึงตอนนี้ และจากนี้ต่อไป เส้นทางที่ทอดยาว
キラリ 不確かに揺れる 目映さの向こうへと
kirari futashika ni yureru mabayusa no mukou e to
สู่อีกฟากของความเจิดจ้าที่สั่นไหวด้วยประกายแสงอย่างไม่แน่นอน
一緒にゆけたら
issho ni yuketara
ถ้าได้ไปด้วยกันกับเธอล่ะก็...


そう 信じることはこわくない
sou shinjiru koto wa kowakunai
ใช่แล้ว ฉันจะไม่หวาดกลัวในสิ่งที่ฉันเชื่อ
たとえ答えが見えなくても
tatoe kotae ga mienakute mo
แม้ว่าฉันจะมองไม่เห็นคำตอบก็ตาม
高鳴り せつなさ まなざしのあたたかさ
takanari setsunasa manazashi no atatakasa
ทั้งจังหวะหัวใจที่เต้นแรง ความโศกเศร้า และความอบอุ่นจากแววตาของเธอ
不思議 迷いをほどいてゆく
fushigi mayoi wo hodoiteyuku
ได้คลายความสับสนของฉันลงอย่างน่าประหลาดใจ


上手な笑顔は今でも苦手だけど
jouzu na egao wa ima demo nigate dakedo
รอยยิ้มที่ฉันถนัด แม้ว่าตอนนี้จะยังยิ้มออกมาได้ไม่ดีนัก แต่ว่า
素顔の自分も好きになれた
sugao no jibun mo suki ni nareta
มันก็เป็นตัวตนที่แท้จริงของฉัน ที่ฉันรู้สึกชอบมัน
きっとね 君に出会えたから
kitto ne kimi ni deaeta kara
นั่นต้องเป็นเพราะว่าฉันได้พบกับเธอแน่นอน


重ねてく季節と 重ねあう思い いつも
kasaneteku kisetsu to kasaneau omoi itsumo
ทั้งฤดูกาลที่ซ้อนทับกัน และความรู้สึกทับซ้อนเข้าด้วยกัน
そばにいてくれた 見守ってくれた
soba ni ite kureta mimamotte kureta
คอยอยู่เคียงข้างและเฝ้ามองฉันอยู่ตลอดเวลา
ありがとう 素直な感情があふれる
arigatou sunao na kanjou ga afureru
ขอบคุณนะ ความรู้สึกที่ซื่อตรงมันเอ่อล้นออกมา
フワリ 吹き抜ける風に 願いをゆだねながら
fuwari fukinukeru kaze ni negai wo yudane nagara
ขณะที่ปล่อยให้ความปรารถนาไปตามสายลมที่พัดผ่านอย่างแผ่วเบา
歩いてゆきたい
aruite yukitai
ฉันก็รู้สึกต้องการก้าวเดินไป


見つめあうたび ほら
mitsumeau tabi hora
ทุกครั้งท่ี่มองกันและกัน ดูสิ
響く しあわせの鼓動が 優しく揺らめく
hibiku shiawase no kodou ga yasashiku yurameku
จังหวะหัวใจแห่งความสุขที่ก้องกังวานกำลังสั่นไหวอย่างอ่อนโยน


重ねてく季節と 重ねあう思い ずっと
kasaneteku kisetsu to kasaneau omoi zutto
ทั้งฤดูกาลที่ซ้อนทับกัน และความรู้สึกทับซ้อนเข้าด้วยกัน
一緒に刻んでゆけますように
issho ni kizande yuke masu you ni
เรามาจารึกมันไว้ด้วยกันตลอดไปเลยนะ


変わってく私と 変わらない私 全部
kawatteku watashi to kawaranai watashi zenbu
ทั้งตัวฉันเปลี่ยนไป และตัวฉันที่ไม่เปลี่ยนไป
包んでくれてる 眩しい光
tsutsun de kureteru mabushii hikari
กำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยแสงสว่างที่เจิดจ้า
これまでとこれから 続いてゆく道
kore made to korekara tsuzuite yuku michi
จนถึงตอนนี้ และจากนี้ต่อไป เส้นทางที่ทอดยาวไป
キラリ 不確かに揺れる 目映さの向こう側
kirari futashika ni yureru mabayusa no mukougawa
อีกฟากหนึ่งของความเจิดจ้าที่สั่นไหวด้วยประกายแสงอย่างไม่แน่นอน
ふたりの未来へ
futari no mirai e
จะนำพาไปสู่อนาคตของเราสองคน